รับจดทะเบียนบริษัท

จดทะเบียนบริษัท

จดทะเบียนท่องเที่ยวพิจิตร โทร : 094-493-1414

พิจิตร เดิมสะกดว่า พิจิตร์ มีความหมายว่า "(เมือง) งาม" เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนหรือภาคเหนือตอนล่าง ระหว่างจังหวัดนครสวรรค์กับจังหวัดพิษณุโลก มีแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมไหลผ่าน ตัวเมืองอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่าน พิจิตรเป็นเมืองเก่าแก่ในสมัยสุโขทัย ปรากฏข้อความในศิลาจารึกหลักที่ 1 ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และในศิลาจารึกหลักที่ 8 รัชกาลพระยาลิไท เรียกว่า "เมืองสระหลวง" ซึ่งมีสถานะเป็นหัวเมืองเอกของกรุงสุโขทัย ต่อมาในสมัยอยุธยา รัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้เปลี่ยนชื่อเป็น "เมืองโอฆบุรี" ซึ่งแปลว่า "เมืองในท้องน้ำ" ตามตำนานกล่าวว่า พระยาโคตรบองเป็นผู้สร้างเมืองพิจิตร แต่จะสร้างในสมัยใดไม่ปรากฏ นอกจากนี้ เมืองพิจิตรยังเป็นที่ประสูติของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาพระองค์หนึ่งคือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ)

  • ตราประจำจังหวัด: ต้นโพธิ์ริมสระหลวง
  • ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกบัวหลวง (Nymphaea lotus)
  • ต้นไม้ประจำจังหวัด: บุนนาค (Mesua ferrea)
  • คำขวัญประจำจังหวัด: ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน
  • ลักษณะรูปร่างของจังหวัด: จังหวัดพิจิตรมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับ "ตะพาบ"

950x410_free-consultation

จดทะเบียนบริษัททัวร์ จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยว

หลักการจดทะเบียนบริษัททัวร์ ท่องเที่ยว หลังจากจดทะเบียนบริษัทเรียบร้อย โดยห้ามใส่คำว่า ทัวร์ /Travel ก่อนขอใบอนุญาติ ททท. 

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ออกระเบียบให้ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่จะประกอบธุรกิจ "นำเที่ยว" ต้องได้รับอนุญาตจากกรมการท่องเที่ยวก่อน แล้วจึงนำหลักฐานมายื่นขอจดทะเบียนเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หากไม่มีใบอนุญาตหมดสิทธิ์ประกอบธุรกิจบังคับใช้แล้ว 1 ก.ค. 58
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวหลายพื้นที่ของไทยมักประสบปัญหาชาวต่างชาติเข้ามาประกอบกิจการท่องเที่ยวแต่แอบอ้าง หรือใช้ชื่อคนไทยจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ โดยมีการร้องเรียนผ่านหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อให้เร่งหาแนวทางป้องกันและแก้ไขอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับกรมการท่องเที่ยว และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2557 เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจ การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ และการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เพื่อให้แต่ละหน่วยงานใช้เป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบ กำกับดูแล ตลอดจนสนับสนุนส่งเสริมพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวของไทยให้มีความน่าเชื่อถือเข้มแข็งและยั่งยืน

"เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงที่ทั้ง 3 หน่วยงานได้ร่วมกันกำหนดขึ้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงกำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้งธุรกิจนำเที่ยวให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อป้องปรามปัญหานอมินีและสกัดกั้นผู้ที่ไม่หวังดีในการประกอบธุรกิจนำเที่ยวของไทย โดยออกระเบียบสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลางว่าด้วยการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2558 ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ประสงค์จะจดทะเบียนจัดตั้ง "ธุรกิจนำเที่ยวต้องได้รับอนุญาตจากกรมการท่องเที่ยว” ก่อน โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1) ผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์ทั่วไปๆ ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 2) นำหนังสือรับรองนิติบุคคลที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกให้ไปยื่นขอความเห็นชอบประกอบธุรกิจนำเที่ยวจากกรมการท่องเที่ยว 3) นำหลักฐานใบอนุญาตจากกรมการท่องเที่ยวมายื่นจดทะเบียนเพิ่มวัตถุประสงค์ "นำเที่ยว” ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 4) ดำเนินธุรกิจนำเที่ยวได้ถูกต้องตามกฎหมาย”

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะร่วมกับกรมการท่องเที่ยว และ DSI ลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศเป็นระยะ ๆ หากพบธุรกิจรายใดเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายจะลงโทษอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และขอแนะนำผู้ที่จะใช้บริการ หรือจำเป็นต้องติดต่อทำธุรกรรมกับธุรกิจนำเที่ยวทุกราย ควรตรวจสอบวัตถุประสงค์ของนิติบุคคลจากหนังสือรับรองที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกให้โดยตรวจสอบได้ 3 ช่องทาง 1) สายด่วน 1570 2) www.dbd.go.th (คลังข้อมูลธุรกิจ) และ3) ดาวน์โหลด Application ‘DBD e- Service’ และต้องตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตการประกอบธุรกิจนำเที่ยวจากกรมการท่องเที่ยวหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาทัวร์ต้มตุ๋น หลอกลวง

ขออนุญาติธุรกิจท่องเที่ยว ขออนุญาตธุรกิจทัวร์ จดทะเบียนบริษัททัวร์ จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยว รับจดทะเบียนบริษัทพิจิตร จดทะเบียนบริษัทพิจิตร รับจดทะเบียนบริษัทจังหวัดพิจิตร จดทะเบียนบริษัทจังหวัดพิจิตร จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนพิจิตร รับทำบัญชีพิจิตร ทำบัญชีพิจิตร รับวางระบบบัญชีพิจิตร วางระบบบัญชีพิจิตร รับตรวจสอบบัญชีพิจิตร ตรวจสอบบัญชีพิจิตร อำเภอเมืองพิจิตร วังทรายพูน โพธิ์ประทับช้าง ตะพานหิน บางมูลนาก โพทะเล สามง่าม ทับคล้อ สากเหล็ก บึงนาราง ดงเจริญ วชิรบารมี

โปรโมชั่น จดทะเบียนบริษัทกับเราวันนี้


โปรโมชั่น สำหรับลูกค้าจดทะเบียนใหม่

พิเศษ !!! สำหรับลูกค้าจดทะเบียนใหม่

ส่วนลดพิเศษ!! จัดทำเว็บไซต์จาก ปกติ 12,000 บาท เหลือเพียง 5,000 บาท
ฟรี !!! ระบบอีเมล์ภายใต้ชื่อโดเมนเนม

blank


โปรโมชั่น ลูกค้าจดทะเบียนใหม่และทำบัญชี

พิเศษ !!! ลูกค้าจดทะเบียนใหม่และทำบัญชี

เว็บไซต์ ราคาพิเศษ 3,500 สำหรับบริษัทพร้อมแนะนำการทำตลาดออนไลน์
ฟรี ออกแบบโลโก้บรษัท
ฟรี รูปแบบใบส่งสินค้า ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงินและเอกสารสำคัญอื่นๆ
ฟรี ขึ้นทะเบียน ระบบ E-FILING เพื่อใช้นำส่งงบการเงินกับกระทรวงพาณิชย์
ฟรี จดทะเบียน ภ.อ.01 เพื่อใช้ยื่นภาษีผ่าระบบออนไลน์
ฟรี จัดเตรียมเอกสารขึ้นทะเบียน E-GP (ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ)
ฟรี ที่ปรึกษาด้านการตลาดและบริหารธุรกิจ

การจดทะเบียนธุรกิจ ประเภทต่างๆ ต้องเลือกให้เหมาะสมกับกิจการที่เราจะทำ จำเป็นจะต้องพิจารณาให้ละเอียด เพื่อการเริ่มต้นที่ดี

คำถามที่พบบ่อย ?

ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด ร้านค้าจดทะเบียนบริษัทที่ไหน? จดบริษัทจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง? จดบริษัทต้องใช้ผู้ก่อตั้งกี่คน? จดบริษัทต้องมีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่? ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร บริษัทต้องเสียภาษีอะไรบ้าง? บริษัทจดคนเดียวได้ไหม? บริษัทสามารถใส่วัตถุประสงค์ได้กี่ข้อ? จะรับงานราชการต้องจดทะเบียนแบบไหน? บริษัทจะต้องขึ้นประกันสังคมหรือไม่? ต้องมีลูกจ้างกี่คนถึงจะขึ้นประกันสังคม? จะเริ่มทำบัญชียังไง? ลูกค้าให้จดเป็นนิติบุคคล จะจดแบบไหนดี? มีชาวต่างชาติถือหุ้นด้วยจะจดบริษัทได้ไหม? การตั้งชื่อบริษัทควรจะตั้งอย่างไร? ถ้าเปิดบริษัทแต่ยังไม่มีรายได้ต้องเสียค่าทำบัญชีไหม ต้องปิดงบการเงินหรือไม่? ถ้ามีชื่อในบริษัทอื่นแล้ว จะตั้งบริษัทใหม่ได้ไหม? ทำบิล ทำใบกำกับภาษี ไม่เป็น จะทำยังไง? กรรมการบริษัท คืออะไร มีหน้าที่อย่างไร? ผู้ถือหุ้น คืออะไร มีหน้าที่อย่างไร ? จะเปิดบัญชีกับธนาคาร ในนามบริษัทต้องทำอย่างไร? ที่ตั้งบริษัท ใช้บ้านที่ต่างจังหวัดได้หรือไม่?……..

โทรหาเรา เพื่อขอรับคำปรึกษา โทร : 083-622-5555

รับจดทะเบียนบริษัท

จดทะเบียนบริษัท

จดทะเบียนบริษัท รับจดทะเบียนบริษัท

ให้บริการด้านการจัดตั้งธุรกิจ รับจดทะเบียนบริษัททุกประเภท ทั่วไทย รับเป็นที่ปรึกษาด้านบัญชี ภาษี ตรวจสอบภายใน เขียนแผนธุรกิจ การตลาด สื่อโฆษณา การเงิน แรงงาน กฎหมาย ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์พร้อมด้วยบริการอย่างมีประสิทธิภาพ ราคาเป็นธรรมและซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา


ประวัติศาสตร์

ในสมัยอยุธยา พิจิตรเป็นหัวเมืองชั้นตรี มีตำแหน่งเจ้าเมืองปรากฏตามพระไอยการตำแหน่งนาพลเรือนนาทหารหัวเมืองว่า ออกญาเทพาธิบดีศรีรณรงค์ฤๅไชยอภัยพิรียภาหะ ศักดินา 5,000 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นขุนนางบรรดาศักดิ์ระดับสูง ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีหัวเมืองชั้นตรีเพียง 7 เมืองเท่านั้น คือ เมืองพิชัย เมืองพิจิตร เมืองนครสวรรค์ เมืองพัทลุง เมืองชุมพร เมืองจันทบูร และเมืองไชยา จึงนับว่าในสมัยโบราณ พิจิตรเป็นเมืองที่ค่อนข้างจะมีความสำคัญสูง จนตำแหน่งเจ้าเมืองมีการตราไว้ในพระไอยการฯ ซึ่งสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้ทรงตราไว้

ในสมัยรัตนโกสินทร์ เมืองพิจิตรเป็นเพียงเมืองขนาดเล็ก แต่ก็ยังมีเจ้าเมืองปกครองดังเช่นเมืองอื่น ๆ เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดให้ย้ายเมืองพิจิตรมาตั้งที่บ้านคลองเรียง ซึ่งเป็นคลองขุดใหม่ลัดแม่น้ำน่านที่ตื้นเขิน คลองเรียงจึงกลายเป็นแม่น้ำน่านไป ส่วนบริเวณเมืองพิจิตรเก่ายังปรากฏโบราณสถานอยู่หลายแห่ง ซึ่งมีอายุตั้งแต่สมัยสุโขทัยถึงสมัยอยุธยา

จังหวัดพิจิตรอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศเหนือประมาณ 350 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 4,531.013 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,831,883 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้

ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดพิษณุโลก
ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดเพชรบูรณ์
ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดนครสวรรค์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดกำแพงเพชร

ลักษณะภูมิประเทศ

มีสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มตอนกลางและค่อยสูงขึ้นทางทิศตะวันออกและตะวันตกมีแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านไหลผ่านจากเหนือจรดใต้ มีบึงสีไฟ และบึง หนอง คลอง อีกจำนวนมาก สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปอุณหภูมิเฉลี่ย 30.2 องศาเซลเซียส ต่ำสุดโดยประมาณ 14.4 องศาเซลเซียส สูงสุดโดยเฉลี่ยประมาณ 33.2 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปี 911.3 มิลลิเมตร สูงสุด 1,113.9 มิลลิเมตร การประกอบอาชีพ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตรเป็นภาคการผลิตหลัก รองลงมาได้แก่ อุตสาหกรรม การค้าส่ง การค้าปลีก และการบริการ ผลผลิตสำคัญได้แก่ ข้าวโพด ถั่วเขียว และการประมง

การปกครองแบ่งออกเป็น 12 อำเภอ 89 ตำบล 888 หมู่บ้าน

อำเภอเมืองพิจิตร
อำเภอวังทรายพูน
อำเภอโพธิ์ประทับช้าง
อำเภอตะพานหิน
อำเภอบางมูลนาก
อำเภอโพทะเล
อำเภอสามง่าม
อำเภอทับคล้อ
อำเภอสากเหล็ก
อำเภอบึงนาราง
อำเภอดงเจริญ
อำเภอวชิรบารมี

ประเพณีแข่งเรือ

จังหวัดพิจิตรมีการแข่งเรือประเพณีมาเป็นเวลานานแล้วเพราะมีธรรมเนียมว่า วัดใดถ้าจัดงาน ปิดทองไหว้พระแล้วก็จะต้องจัดงานแข่งเรือควบคู่กันไปด้วย มักจัดกันในฤดูน้ำหลาก ประมาณวันเสาร์-อาทิตย์ต้นเดือนกันยายนของทุกปี ในงานจะมีการแข่งเรือประเพณีและการประกวดขบวนแห่เรือต่าง ๆ ในแม่น้ำน่าน หน้าวัด ท่าหลวง มีการจัดกิจจกรรมภายในงานที่น่าสนในมากมาย

ประเพณีแข่งเรือยาวของจังหวัดพิจิตร

การแข่งเรือยาวของหวัดท่าหลวง เริ่มในสมัยท่าเจ้าคุณ พระธรรมทัสส์มุนีวงค์ (เอี่ยม) เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เมื่อ ประมาณ พ.ศ. 2450 ได้กำหนดงานจัดงานแข่งขันเรือตามกำหนดวัน คือ วัน ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ภายหลังน้ำในแม่น้ำน่าน ลดลงเร็วเกินไป ไม่ เหมาะสมจะแข่งขันเรือยาว จึงเปลี่ยนมาเป็นวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 10 และทางวัด แข่งขันเพียงวันเดียว การแข่งขันเรือยาว ได้จัดนำผ้าห่มหลวงพ่อเพชร มอบให้ เป็นรางวัล สำหรับเรือยาวที่ชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ต่อมาได้เปลี่ยนรางวัล เป็นธงที่มีรูปหลวงพ่อเพชรแทน

ประเพณีกำฟ้า

เป็นประเพณีสำคัญของชาวบ้านป่าแดง ตำบลหนองพยอม อำเภอตะพานหิน ซึ่งเป็นชาวไทยพวน ซึ่งถือปฏิบัติต่อกันมา เป็นเวลาช้านาน จัดตรงกับวันขึ้น 2 ค่ำและ 3 ค่ำ เดือน 3 (ประมาณเดือนกุมภาพันธ์) เพื่อแสดง ความเคารพบูชาเทวดาและพระมหากษัตริย์ เมื่อถึงวันกำฟ้าชาวไทยพรวนจะกลับมายังบ้านของตน เพื่อร่วมทำบุญกับญาติพี่น้อง พบปะสังสรรค์และเล่นกีฬาพื้นบ้าน

พระพิจิตรเกศคด

ตามตำนานเล่าว่าในสมัยโบราณ พิจิตรเป็นเมืองลูกหลวงของกรุงสุโขทัย เวลามีศึกสงคราม ก็มักจะมีการเกณฑ์ชายฉกรรจ์ชาวพิจิตรไปรบ และนักรบจากเมืองพิจิตรนี้มีความกล้าหาญอย่างยิ่ง ก็มีผู้สงสัยว่าทำไมนักรบเหล่านี้จึงกล้าหาญ ก็ปรากฏว่า ชายฉกรรจ์เหล่านี้ต่างมีพระเครื่อง ที่เป็นวัตถุมงคลติดตัวไปทุกคน และพระเครื่องเหล่านี้ก็แปลกกว่าที่อื่น ๆ คือตรงเศียรพระจะเอียงไม่ตรง เข้าใจว่าพิมพ์ที่นำมาใช้หล่อพระนั้นจะทำไม่ตรง แต่ภายหลังก็เป็นที่นิยมกันว่า พระเครื่องของพระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ ที่ทำขึ้นในเมืองพิจิตรในสมัยต่อมามักจะทำเกศให้คด เป็นรูปพิมพ์นิยม จึงเรียกกันติดปากว่า พิจิตรเกศคด

ตำนานชาละวัน

ชาละวัน เป็นจระเข้ใหญ่เลื่องชื่อแห่งแม่น้ำน่านเก่าเมืองพิจิตร สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นในสมัยที่พิจิตรมีเจ้าเมืองปกครอง ตามตำนานกล่าวว่า มีตายายสองสามีภรรยา ออกไปหาปลาพบไข่จระเข้ที่สระน้ำแห่งหนึ่ง จึงเก็บมาฟักเป็นตัวแล้วเลี้ยงไว้ในอ่างน้ำ เพราะยายอยากเลี้ยงไว้แทนลูก ต่อมาจระเข้ตัวใหญ่ขึ้นจึงนำไปเลี้ยงไว้ในสระใกล้บ้านหาปลามาให้เป็นประจำ ต่อมาตายายหาปลามาให้เป็นอาหารไม่พออิ่ม จระเข้ตัวนั้นจึงกินตายายเป็นอาหาร เมื่อขาดคนเลี้ยงดูให้อาหาร จระเข้ใหญ่จึงออกจากสระไปอาศัยอยู่ในแม่น้ำน่านเก่าซึ่งอยู่ห่างจากสระตายายประมาณ 500 เมตร

แม่น้ำน่านเก่าในสมัยนั้นยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ปลานานาชนิดและมีน้ำบริบูรณ์ตลอดปี ขณะนั้นไหลผ่านบ้านวังกระดี่ทอง บ้านดงเศรษฐี ล่องไปทางใต้ ไหลผ่านบ้านดงชะพลู บ้านคะเชนทร์ บ้านเมืองพิจิตรเก่า บ้านท่าข่อย จนถึงบ้านบางคลาน จระเข้ใหญ่ก็เที่ยวออกอาละวาดอยู่ในแม่น้ำตั้งแต่ย่านเหนือเขตวังกระดี่ทอง ดงชะพลู จนถึงเมืองเก่า แต่ด้วยจระเข้ใหญ่ของตายายได้เคยลิ้มเนื้อมนุษย์แล้ว จึงเที่ยวอาละวาดกัดกินคนทั้งบนบกและในน้ำไม่มีเว้นแต่ละวัน จึงถูกขนานนามว่า "ไอ้ตาละวัน" ตามสำเนียงภาษาพูดของชาวบ้านที่เรียกตามความดุร้ายที่มันทำร้ายคน ไม่เว้นแต่ละวัน ต่อมาก็เรียกเพี้ยนเสียงเป็น "ไอ้ชาละวัน" และเขียนเป็น "ชาลวัน" ตามเนื้อเรื่องในพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ชื่อของชาละวันแพร่สะพัดไปทั่วเพราะเจ้าชาละวันไปคาบเอาบุตรสาวคนหนึ่งของเศรษฐีเมืองพิจิตรขณะกำลังอาบน้ำอยู่ที่แพท่าน้ำาหน้าบ้าน เศรษฐีจึงประกาศให้สนบนหลายสิบชั่ง พร้อมทั้งยกลูกสาวที่มีอยู่อีกคนหนึ่งให้แก่ผู้ที่ฆ่าชาละวันได้ ไกรทอง พ่อค้าจากเมืองล่าง สันนิษฐานว่าจากเมืองนนทบุรี รับอาสาปราบจระเข้ใหญ่ด้วยหอกลงอาคมหมอจระเข้ ถ้ำชาละวันสันนิษฐานว่าอยู่กลางแม่น้ำน่านเก่า ปัจจุบันอยู่ห่างจากที่พักสงฆ์ถ้ำชาละวัน บ้านวังกระดี่ทอง ตำบลย่านยาว ไปทางใต้ประมาณ 300 เมตร ทางลงปากถ้ำเป็นโพรงลึกเป็นรูปวงกลมมีขนาดพอดี จระเข้ขนาดใหญ่มากเข้าได้อย่างสบาย คนรุ่นเก่าได้เล่าถึงความใหญ่โตของชาละวันว่า เวลามันอวดศักดาลอยตัวปริ่มน้ำขวางคลอง ลำตัวของมันจะยาวคับคลอง คือหัวอยู่ฝั่งนี้ หางอยู่ฝั่งโน้น เรื่องชาละวันเป็นเรื่องที่เลื่องลือมาก จนพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงพระราชนิพนธ์บทละครนอกเรื่อง "ไกรทอง" และให้นามจระเข้ใหญ่ว่า "พญาชาลวัน"

จดทะเบียนท่องเที่ยวภาคกลาง

จดทะเบียนท่องเที่ยวนครสวรรค์ : จดทะเบียนท่องเที่ยวอุทัยธานี : จดทะเบียนท่องเที่ยวอ่างทอง : จดทะเบียนท่องเที่ยวสระบุรี : จดทะเบียนท่องเที่ยวสุพรรณบุรี : จดทะเบียนท่องเที่ยวสุโขทัย : จดทะเบียนท่องเที่ยวสิงห์บุรี : จดทะเบียนท่องเที่ยวสมุทรสาคร : จดทะเบียนท่องเที่ยวสมุทรสงคราม : จดทะเบียนท่องเที่ยวสมุทรปราการ : จดทะเบียนท่องเที่ยวลพบุรี : จดทะเบียนท่องเที่ยวเพชรบูรณ์ : จดทะเบียนท่องเที่ยวพิษณุโลก : จดทะเบียนท่องเที่ยวพิจิตร : จดทะเบียนท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา : จดทะเบียนท่องเที่ยวปทุมธานี : จดทะเบียนท่องเที่ยวนนทบุรี : จดทะเบียนท่องเที่ยวนครปฐม : จดทะเบียนท่องเที่ยวนครนายก : จดทะเบียนท่องเที่ยวชัยนาท : จดทะเบียนท่องเที่ยวกำแพงเพชร

จดทะเบียนท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จดทะเบียนท่องเที่ยวอำนาจเจริญ : จดทะเบียนท่องเที่ยวอุบลราชธานี : จดทะเบียนท่องเที่ยวหนองบัวลำภู : จดทะเบียนท่องเที่ยวหนองคาย : จดทะเบียนท่องเที่ยวศรีสะเกษ : จดทะเบียนท่องเที่ยวสุรินทร์ : จดทะเบียนท่องเที่ยวสกลนคร : จดทะเบียนท่องเที่ยวเลย : จดทะเบียนท่องเที่ยวร้อยเอ็ด : จดทะเบียนท่องเที่ยวยโสธร : จดทะเบียนท่องเที่ยวมุกดาหาร : จดทะเบียนท่องเที่ยวมหาสารคาม : จดทะเบียนท่องเที่ยวบุรีรัมย์ : จดทะเบียนท่องเที่ยวบึงกาฬ : จดทะเบียนท่องเที่ยวนครราชสีมา : จดทะเบียนท่องเที่ยวนครพนม : จดทะเบียนท่องเที่ยวชัยภูมิ : จดทะเบียนท่องเที่ยวขอนแก่น : จดทะเบียนท่องเที่ยวกาฬสินธุ์ : จดทะเบียนท่องเที่ยวอุดรธานี

จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยว 50 เขต ในกรุงเทพฯ

จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางบอน : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวทุ่งครุ : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวทวีวัฒนา : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางนา : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวคลองสามวา : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยววังทองหลาง : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวสะพานสูง : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวคันนายาว : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวสายไหม : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวหลักสี่ : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางแค : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยววัฒนา : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวลาดพร้าว : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวราชเทวี : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวดอนเมือง : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวจอมทอง : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวสวนหลวง : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวคลองเตย : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวประเวศ : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางคอแหลม : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวจตุจักร : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางซื่อ : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวสาทร : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบึงกุ่ม : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวดินแดง : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางพลัด : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวราษฎร์บูรณะ : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวหนองแขม : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวภาษีเจริญ : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางขุนเทียน : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางกอกน้อย : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวตลิ่งชัน : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวคลองสาน : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวห้วยขวาง : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางกอกใหญ่ : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวธนบุรี : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวพญาไท : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวสัมพันธวงศ์ : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวยานนาวา : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวลาดกระบัง : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวมีนบุรี : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวพระโขนง : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวป้อมปราบศัตรูพ่าย : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวปทุมวัน : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางกะปิ : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางเขน : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวบางรัก : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวหนองจอก : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวดุสิต : จดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวพระนคร

จดทะเบียนท่องเที่ยวพิจิตร
Tagged on: