ข้อเท็จจริง
น.ส. ก. เปิดร้านขายยาเล็กๆในซอยเป็นร้านขายปลีกยาให้แก่บุคคลทั่วไป สรรพากรให้จดVAT น.ส. ก. ได้ให้ความร่วมมือจด VAT วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560 ข้อเท็จจริงของร้านค้าคือ ในแต่ละวันจะขายสินค้าได้ต่อคนประมาณ 10 – 200 บาท และจะมีคนเข้าร้านซื้อสินค้าประมาณวันละ 100 คน น.ส. ก. สงสัยว่า
- น.ส. ก. จะต้องเปิดใบกำกับภาษีขายอย่างย่อให้กับลูกค้าทุกรายที่ขายได้ใช่ไหมค่ะ แม้ว่าลูกค้าจะไม่เอาบิลก็ตาม
ถ้าต้องออกใบกำกับภาษีอย่างย่อถึงวันละ 100 ใบ น.ส.ก.เกรงว่าจะไม่มีเวลาทำให้ได้ เดือนหนึ่งก็ต้องเปิดใบกำกับภาษีอย่างย่อถึง3,000ฉบับ ซึ่งเป็นภาระที่หนักมาก
- รายงานภาษีขายของ น.ส. ก. จะต้องทำอย่างไร สามารถเขียนในแบบฟอร์มรายงานภาษีขายวันละ1 บรรทัดได้ไหมค่ะ โดยดูจากยอดเงินที่ได้รับเข้าร้านทั้งวัน เพราะถ้าต้องทำรายงานภาษีขายแบบเอาใบกำกับภาษีอย่างย่อไปใส่ทุกฉบับก็จะเท่ากับว่าเดือนหนึ่ง ๆ มีประมาณ 3,000บรรทัดเลยค่ะ
- รายงานสินค้า น.ส. ก. ต้องจัดทำทุกรายการสินค้าที่ร้านขายหรือเปล่าค่ะ เพราะสินค้าทั้งหมดของร้านมีประมาณ1,000 รายการสินค้า ตัวอย่าง ยาแก้ไข ยี่ห้อเดียวกัน มี 3 ขนาด ก็เท่ากับว่าต้องมีสต็อคการ์ด 3 ประเภท ถ้าต้องทำสต็อคกาณ์ดถึง 1,000 รายการตามสินค้าที่ร้านขาย จะเพิ่มภาระอย่างหนักมากให้กับทางร้านค้าต้องจ้างพนักงานบัญชีมาทำแล้วค่ะ
ซึ่งคงมีภาระทางด้านค่าใช้จ่ายจากการจด VAT นี้มากเลย
- ในการยื่นแบบ ภ.ง.ด.94และภ.ง.ด.90 ของน.ส.ก.จะต้องเอายอดเงินสินค้าคงเหลือ ณ.วันสิ้นรอบกลางปี กับปลายปีไปเขียนในแบบ ภ.ง.ด.90 ด้วยหรือเปล่าค่ะ
- น.ส. ก. จดทะเบียนสมรสกับนาย ข. รายได้จากร้านขายยา สามารถยื่นในชื่อของ น.ส. ก. คนเดียวได้ไหมค่ะ คือไม่เอาไปรวมเป็นรายได้ของสามีค่ะ เพราะสามีก็มีรายได้เยอะอยู่แล้วค่ะ
- ถ้าซื้อยากระปุกละ1,000 เม็ด ควรตัดยอดยังไง ถ้านับเม็ดขาย ซึ่งบางครั้งขายไม่หมด ยาหมดอายุก่อน จะตัดยอดอย่างไร และยาหมดอายุ จะตัดสต๊อคโดยแจ้งอย่างไร (ต้องทิ้งแน่ ขายไม่ได้ ไม่สามารถตัดเป็นขายออกได้) หรือซื้อยามาเป็นขวดแก้วทำตกแตกระหว่างจัดเรียงสินค้า จะต้องแจ้งอย่างไร
ข้อกฎหมาย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 86/8 แห่งประมวลรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 154) เรื่อง กำหนดลักษณะ และเงื่อนไขของการประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย และการออกใบกำกับภาษีของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 86/8 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ดังนี้
- กำหนดให้การประกอบกิจการดังต่อไปนี้เป็นการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย (ข้อ2)
(1) การขายสินค้าหรือให้บริการซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่เคยมีมูลค่าของฐานภาษีในเดือนใดถึง 300,000 บาท
- ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อยตามข้อ1 ไม่จำต้องออกใบกำกับภาษีสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการที่มีมูลค่าครั้งหนึ่งไม่เกิน 1,000 บาท เว้นแต่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการจะเรียกร้องใบกำกับภาษี (ข้อ 3)
- ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนดังกล่าวจัดทำใบกำกับภาษีอย่างย่อรวบรวมการขายสินค้าหรือการให้บริการที่มีมูลค่าครั้งหนึ่งไม่เกิน1,000บาท ในหนึ่งวันทำการเพื่อเป็นเอกสารประกอบการลงรายการในรายงานภาษีขายตามมาตรา 87 (1) แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้ลงรายการในรายงานภาษีขายเฉพาะมูลค่าสินค้าหรือบริการและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมดต่อวันที่ได้รับหรือพึงได้รับซึ่งเกิดจากใบกำกับภาษีดังกล่าว โดยต้องเก็บใบกำกับภาษีดังกล่าวไว้ตามมาตรา 87/3 แห่งประมวลรัษฎากรด้วย (ข้อ 4)
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 87/1 แห่งประมวลรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำหนดให้ผู้ประกอบการ จดทะเบียนจัดทำรายงานแตกต่างไปจากรายงานตามมาตรา 87 แห่งประมวลรัษฎากร ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 104) เรื่อง กำหนดให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดทำรายงานแตกต่างไปจากรายงานตามมาตรา 87 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ดังต่อไปนี้
“ข้อ 3 ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้รับยกเว้นไม่ต้องจัดทำรายงานสินค้าและวัตถุดิบ ตามมาตรา 87 (3) แห่งประมวล รัษฎากร แต่จะต้องทำการตรวจนับสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 30 มิถุนายน ของปี และวันที่ 31 ธันวาคมของปี และกรอกรายการสินค้าคงเหลือในแบบรายละเอียดสินค้าคงเหลือ โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้ และให้ถือว่าแบบรายละเอียดสินค้าคงเหลือเป็นรายงานสินค้าและวัตถุดิบตามมาตรา 87 (3) แห่งประมวลรัษฎากร
ความในวรรคหนึ่ง ไม่ใช้บังคับกับผู้ประกอบการจดทะเบียนดังต่อไป
(1) ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการโรงเลื่อย โรงค้าไม้ แปรรูป และกิจการอื่นใดซึ่งต้องจัดทำบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้
(2) ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการค้าของเก่า ซึ่งต้องจัดทำบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการค้าของเก่า
(3) ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน ประเภทร้านค้าปลอดอากร ซึ่งต้องจัดทำบัญชีแยกประเภทสินค้าตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร
(4) ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการปิโตรเลียมตามกฎหมาย ว่าด้วยปิโตรเลียม
(5) ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งขายสินค้าให้แก่
(ก) ผู้ทำสัญญาแบ่งปันผลผลิตกับองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย
(ข) ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการซึ่งได้ทำสัญญาเป็นหนังสือโดยตรงกับผู้ทำสัญญาแบ่งปันผลผลิตกับองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรร่วม ไทย-มาเลเซีย”
ตอบคำถาม
- หากตามข้อเท็จจริง น.ส. ก. ไม่เคยมีมูลค่าของฐานภาษีในเดือนใดถึง300,000 บาท และมีมูลค่าขายสินค้าครั้งหนึ่งไม่เกิน 1,000บาท ตามลักษณะ และ เงื่อนไขของการประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย และการออกใบกำกับภาษีของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 86/8 แห่งประมวลรัษฎากร ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 154) ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2546 น.ส. ก. ก็ไม่จำต้องออกใบกำกับภาษีสำหรับการขายสินค้าดังกล่าว เว้นแต่ผู้ซื้อสินค้าจะเรียกร้องใบกำกับภาษี
และให้จัดทำใบกำกับภาษีอย่างย่อรวบรวมการขายสินค้าหรือการให้บริการที่มีมูลค่าครั้งหนึ่งไม่เกิน 1,000 บาท ในหนึ่งวันทำการเพื่อเป็นเอกสารประกอบการลงรายการในรายงานภาษีขายตามมาตรา 87 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
- การจัดทำรายงานภาษีขายของ น.ส. ก. ให้ลงรายการในรายงานภาษีขายเฉพาะมูลค่าสินค้าหรือบริการและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมดต่อวันที่ได้รับหรือพึงได้รับซึ่งเกิดจากใบกำกับภาษีดังกล่าว โดยต้องเก็บใบกำกับภาษีดังกล่าวไว้ตามมาตรา87/3 แห่งประมวลรัษฎากรด้วย
- รายงานสินค้า น.ส. ก. เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็นบุคคลธรรมดา จึงไม่ต้องจัดทำทุกรายการสินค้าที่ร้านขาย หากแต่จะต้องทำการตรวจนับสินค้าคงเหลือ ณ วันที่30 มิถุนายน ของปี และวันที่ 31 ธันวาคมของปี และกรอกรายการสินค้าคงเหลือในแบบรายละเอียดสินค้าคงเหลือ โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามแบบที่แนบท้ายประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 104)เรื่อง กำหนดให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดทำรายงานแตกต่างไปจากรายงานตามมาตรา 87 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2543 และให้ถือว่าแบบรายละเอียดสินค้าคงเหลือเป็นรายงานสินค้าและวัตถุดิบตามมาตรา 87 (3) แห่งประมวลรัษฎากร
- ในการยื่นแบบ ภ.ง.ด.94และ ภ.ง.ด.90 ของ น.ส. ก. ไม่ต้องนำยอดเงินสินค้าคงเหลือ ณ วันสิ้นรอบกลางปี กับปลายปีไปเขียนในแบบ ภ.ง.ด.90 เว้นแต่กรณีเลือกหักค่าใช้จ่ายจริงหรือค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควร ก็ต้องใช้ยอดสินค้าคงเหลือเพื่อการคำนวณต้นทุนสินค้าที่ขาย ตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
- น.ส. ก. จดทะเบียนสมรสกับนาย ข. รายได้จากร้านขายยา สามารถยื่นในชื่อของ น.ส. ก. คนเดียวได้ โดยไม่ต้องนำไปรวมเป็นรายได้ของสามี ตามมาตรา57 ฉ แห่งประมวลรัษฎากร
- การตัดต้นทุนให้ใช้วิธีการทางบัญชีต้นทุนตามวิธีPeirodic
กรณีขายไม่หมด ยาหมดอายุก่อน ให้ตัดยอดยาหมดอายุ เป็นค่าใช้จ่ายในปีภาษีนี้น รวมทั้งกรณีซื้อยามาเป็นขวดแก้วทำตกแตกระหว่างจัดเรียงสินค้า การทำลายสินค้าให้แจ้งให้เจ้าพนักงานประเมินทราบตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 79/2541

