คนที่จะประสบความสำเร็จในการทำงาน จะต้องขยัน และทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานอย่างเต็มที่

แต่..ใช่ว่าคนที่อยากก้าวหน้า จะเป็นอย่างนั้นเสมอไป

C6E4GF USA, New Jersey, Jersey City, Young woman working in office. Image shot 2011. Exact date unknown.

วัฒนธรรมการทำงานของทั่วโลก แม้จะแตกต่างตามลักษณะของผู้คนในแต่ละพื้นที่ แต่สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้าง

คล้ายกันคือ หากคิดจะทำงานแล้ว จะเอ้อระเหยลอยชายไม่ได้ ต้องเป็นคนขยันขันแข็ง เพราะแม้จะขาด

คุณสมบัติที่โดดเด่น แต่หากมีความขยันแล้ว ย่อมจะช่วยให้ผู้นั้นประสบความสำเร็จในที่สุด

 

ดังนั้น คนทำงานที่อยากก้าวหน้า จะต้องทุ่มเทเวลาต่อวันกับงานและที่ทำงานมากเท่าที่จะมากได้

เพราะเชื่อว่ายิ่งทำงานนานและหนักเท่าไร ก็จะยิ่งนำไปสู่ความสำเร็จเร็วขึ้นเท่านั้น

 

แนวคิดเรื่องความขยันสร้างคน ได้รับการถ่ายทอดและตอกย้ำมากที่สุดแนวคิดหนึ่ง จนกลายเป็น

มาตรฐานสากลไปโดยปริยาย

 

ถึงกระนั้นผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร meQuilibrium องค์กรด้านสุขภาพที่ให้บริการอุปกรณ์จัดการความเครียด

ผ่านระบบดิจิตอล เชื่อว่าการเป็นคนขยัน ไม่ควรทำให้คนทำงานต้องเครียด จนกลายเป็นการทำร้ายตัวเอง

และนำมา ซึ่งความยุ่งเหยิงในชีวิต ตรงกันข้าม เชื่อว่าการทำงานมากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเครียด

อย่างแสนสาหัส จนทำให้ประสิทธิภาพของงานลดลง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตรงกับงานวิจัยทางการแพทย์จำนวน

ไม่น้อย ที่ชี้ว่าการทำงานหนักตั้งแต่ 70 ชม.ต่อสัปดาห์ หรือ 10 ชม. ต่อวัน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด

โรคหัวใจ การพึ่งพาแอลกอฮอล์ นำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต

ของคนทำงานไปพร้อมๆ กับส่งเสริมศักยภาพในหน้าที่การงาน จึงมีข้อแนะนำให้ผู้บริหารและคนทำงาน

อย่างน้อย 3 ข้อ เพื่อรักษาความขยันขันแข็งไปพร้อมกับดูแลตัวเองอย่างสมดุล ซึ่งเป็นข้อแนะนำที่ได้

ปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวันและองค์กรด้วยเช่นกัน

 

  1. อธิบายคุณค่าของงานที่มอบหมายให้เข้าใจแจ่มแจ้งเป็นเรื่องแปลกแต่จริง ที่ความเครียดส่วน

ใหญ่ของผู้ปฏิบัติงานมาจากความรู้สึกว่า งานที่ทำไม่ได้รับความสำคัญ ไม่ใช่เพราะการทำงานหนัก เป็น

ธรรมดาที่เมื่อไม่รู้ว่า ความสำคัญหรือวัตถุประสงค์ของสิ่งที่ทำ ประสิทธิภาพและความทุ่มเทจะลดลงไป

หัวหน้าหรือเจ้านายที่ดีควรช่วยชี้หรืออธิบายให้ผู้ปฏิบัติงานรู้ถึงผลหรือการพัฒนาขององค์กรที่มาจากงานที่

พวกเขาทำ ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มชีวิตชีวาให้กับผู้ปฏิบัติงาน แต่ยังได้งานที่ดีขึ้นตามไปด้วย

 

  1. ส่งเสริมให้พักผ่อนแม้แต่ละองค์กรจะกำหนดเวลาพักร้อนให้กับพนักงานอยู่แล้ว แต่หลายคนไม่กล้า

ใช้ด้วยเหตุผลต่างๆ กัน หรือแม้แต่เพียงเพราะคำว่า “เกรงใจ” ต่อให้เป็นบริษัทที่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง บุคลากรไม่

พอ อุปกรณ์ไม่พร้อม ผู้ที่เหน็ดเหนื่อยจากงานก็ยังควรได้รับการ พักผ่อน บรูซ เล่าว่า เธอเพิ่งได้รับ

จดหมายยื่นลาพักร้อนจากหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงาน และสิ่งที่เธอทำคือ เขียนจดหมายตอบกลับไปยินดีที่

หัวหน้าฝ่ายหาเวลาพักผ่อนเพื่อ ตัวเองบ้าง ซึ่งช่วยทั้งสร้างบรรยากาศการทำงานและพัฒนาทัศนคติ

ที่ดีต่อองค์กร

 

  1. จัดเวลาผ่อนคลายในแต่ละวันนอกจากการพักผ่อนยาวๆ ช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ช่วงพักใน 1 วันก็

สำคัญไม่แพ้กัน บรูซ จะส่งเสริมให้พนักงานใช้วันหยุดไปเที่ยวพักผ่อน ทานอาหารกลางวันนอกโต๊ะทำงาน

และไม่ต้องรับโทรศัพท์หรือตอบอีเมลนอกเวลางาน เธอรู้ดีว่าทุกเวลามีค่า ถึงกระนั้น การได้พักในเวลาที่

เหมาะสมช่วยให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้น รู้จักดูแลตัวเองให้พร้อม เพื่อทำงานออกมาให้เต็มที่ และที่สำคัญ

ที่สุดคือ รักงาน ไม่ใช่เพียงแค่เพราะงานสร้างเงิน แต่ช่วยสร้างคุณค่าให้กับชีวิตของผู้ปฏิบัติด้วย

 

ที่มา :  http://www.m2fjob.com

ทำงานให้ดี ไม่จำเป็นต้องเครียด
Tagged on: