บางที ผมก็แอบคิดนะ คนรุ่นเก่าก็ไปปรามาส คนรุ่นใหม่มากไป ว่าเด็กรุ่นนี้..
-> เป็นพวกหนี้ท่วมท้น บนสารพัดบัตรเครดิต
-> เป็นพวกไม่อดทน ไม่ขยัน ไม่อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ไม่รู้จักออม
-> เป็นพวกกินหรูหรา บูชาท่องเที่ยว อัพโซเชี่ยลอวดเพื่อน

ที่สุดแล้ว..
=====================
“ก็ตั้งตัวไม่ได้ ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ”
=====================
บลาๆๆๆๆ….
มันก็มีส่วนจริง และมันก็มีส่วนไม่จริง เรื่องพฤติกรรมผมไม่พูดถึงนะ ผมว่าคนทุกรุ่นมีทั้งคนประหยัดและฟุ่มเฟือย แต่เอาเรื่อง “ตั้งตัว” อย่างเดียว การที่คนรุ่นใหม่ ตั้งตัวได้ยากกว่าพวกคนยุค Baby Boom (อายุ 55 ขึ้น) หรือ เจน X(อายุ 30 ปลาย – 55) ส่วนหนึ่ง … มันคือเรื่อง “ค่าครองชีพ”
ผมไม่ได้หมายถึง ค่าครองชีพประเภท ฟุ่มเฟือย พวกกาแฟแพง หรู ท่องเที่ยวอู้หูว์รอบโลก นะ
ผมหมายถึงค่าครองชีพหลักๆ เช่น..

======
“ค่าข้าว”
======
ในปี 2525 เป็นปีที่พ่อให้เงินไปโรงเรียนเป็นครั้งแรก ผมจำได้ว่าข้าวที่โรงเรียนจานละ 3-4 บาท ข้าวแกงนอกโรงเรียนจานละ 5 บาท ในปี 2525 นั้น เงินเดือนข้าราชการซี 5 คือ 6,025 บาท แปลว่าเงินเดือน 1 เดือน แลกข้าวแกงได้ 1,205 จาน
ในปี 2560 เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท … ข้าวแกงเบสิกกระเพราไก่ไข่ดาว จานละ 40 แปลว่า
เงินเดือน 1 เดือน แลกข้าวแกงได้ 375 จาน
คนรุ่นใหม่มีทางเลือก 2 ทาง เพื่อให้เก็บเงิน “ตั้งตัว” ได้เหมือนคนรุ่นเก่า
1. เพิ่มเงินเดือน
2. หากระเพราไก่ไข่ดาว ที่ราคาถูกกว่า 40 บาทมากๆ
คนรุ่นใหม่ ตั้งตัวได้ช้า … เขาไม่ได้ทำอะไรผิด มันเป็นเรื่องของยุคสมัยด้วย ไม่จำเป็นต้องพูดถึง..
ราคาค่ารถ ค่าบ้าน ค่าน้ำมัน ฯลฯ สมัยนี้เลย
วิธีแก้มีไหม…ก็พอมีแหละ เพราะ คนยุคนี้มีโอกาสในการแสวงหาความมั่งคั่งมากกว่าคนรุ่นก่อนเยอะ ยุคสมัยของการออมและการลงทุนในกองทุน ในหุ้น… เริ่มมาเป็น 10 ปีแล้ว และ ยุคสมัยแห่งการสร้างอาชีพที่สอง ที่สาม ก็จะมาเป็นเทรนด์หลักของคนไทยในอีกไม่นาน ก็คงต้องปรับตัวกันไป
เพราะเมื่อความเปลี่ยนแปลงถาโถม “แข็งแรง…หล่อเหลา…ฉลาด”
ไม่อาจการันตีว่าจะรอด “ปรับตัว … จึงรอด”
