ผลของการออมเงินที่ทำให้ใครหลายๆคนเห็นแล้วรับรองว่าต้องมีแรงฮึดที่อยากจะออมเงินมากขึ้น!!

คนแรก : นักเรียน นักออม สะสมเงินค่าขนมมาจ่ายค่าเทอมเพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่

คนที่สอง : พ่อค้านักออม หยอดกระปุกออมสิน 1 ปี ได้เงินเกือบ 4 แสนบาท เป็นของขวัญปีใหม่ให้พ่อแม่

คนที่สาม : หมูปิ้งร้อยล้าน ขายและสะสมเงินจนกระทั่งมีเงินสร้างโรงงานหมูปิ้งที่ได้มาตรฐาน

ถ้าใครที่คิดว่าชาตินี้เราออมเงินไม่ได้หรือออมเงินไปแป๊บนึงแล้วมักพ่ายแพ้ต่อสิ่งรอบตัว จนต้องหยิบเงินออมออกมาใช้จนหมดเกลี้ยง อภินิหารเงินออมอยากลองดูวิธีการออมเงินของ 3 บุคคลตัวอย่างที่เขียนไว้ในบทความนี้ รับรองว่าอ่านจบแล้วเราจะมีแรงฮึดและเริ่มต้นออมเงินได้แน่นอน

แม้ว่าพวกเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปที่อยู่ในวัยเรียนและคนค้าขาย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ความอดทน เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไร อ่านต่อกันได้เลยจ้า…

 

คนแรก : นักเรียน นักออม

ในช่วงเดือนเมษายน 2560 เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นการแชร์เรื่องราวบน FB และสื่อโทรทัศน์ ของนักเรียนคนหนึ่งที่ออมเงินจากค่าขนมมาจ่ายค่าเทอมจำนวน 6,380 บาท เรามาดูกันว่าเขาเป็นใครมาจากไหนและมีวิธีการออมเงินอย่างไร

น้องคนนนี้ ชื่อ นายกานต์ พานิช หรือ ป๊อป อายุ 18 ปี อยู่ที่จ.ฉะเชิงเทรา เรียนที่วิทยาลัยการอาชีพพนมสารคาม สาขาช่างกลโรงงาน ตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาการทำเกษตรของที่บ้าน

ครอบครัวทำอาชีพเกษตรกรรม ปลูกผักไว้ขาย เช่น มันสำปะหลัง ถั่ว และแตง ไม่ค่อยจะมีเงินมากนัก เพราะบ้านกับโรงเรียนอยู่ห่างกันประมาณ 70 กิโลเมตร ทำให้ต้องจ่ายค่ารถรับส่งเดือนละ 1,700 บาท และต้องตื่นไปโรงเรียนตั้งแต่ตีสี่ทุกวัน

การออมเงิน : ต้องการเก็บเงินเพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่และเก็บเอาไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น จึงเริ่มออมเงินใส่กระปุกออมสินที่ทำจาก กระบอกไม้ไผ่ (ตัดมาจากข้างบ้าน)และขวดน้ำพลาสติก เงินที่นำมาหยอดนั้นเป็นเงินค่าขนมที่แม่ให้วันละ 100 บาท พอเหลือกลับมาก็จะหยอดทุกวันๆ ละ 5-10 บาท

 

ข้อคิดที่เราได้จากเรื่องราวของน้องป๊อบ…

การตั้งใจเรียนเพื่อนำความรู้ที่ได้รับมาสร้างรายได้ให้ตนเองและดูแลครอบครัว
การปลูกฝังนิสัยออมเงินต้องเริ่มต้นจากครอบครัว เช่น ได้รับเงินค่าขนมแล้วแบ่งไปออมเก็บไว้
ถ้าเราสามารถจัดการกับเงินก้อนเล็กๆ ได้ ความรู้ตรงนี้ก็จะทำให้เราจัดการกับเงินก้อนโตที่เราจะได้รับในอนาคตได้เช่นกัน
สำหรับคนวัยทำงานอาจจะนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ได้ คือ “ออมก่อนใช้” เมื่อได้รับเงินเดือนมาแล้วควรไปเก็บออมไว้ก่อน เหลือจากนั้นค่อยนำมาใช้จ่าย

 

 

คนที่สอง : พ่อค้านักออม


ช่วงวันปีใหม่ปี 2560 มีการแชร์คลิปทางสื่อออนไลน์ของพ่อค้าหนุ่มคนหนึ่ง แบ่งเงินที่ขายของได้มาหยอดกระปุกออมสินเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้พ่อกับแม่ สะสมเงิน 1 ปี มีเงินออมกว่า 380,000 บาท เรามาดูกันว่ากว่าจะมีวันนี้เขาต้องผ่านอะไรมาบ้างและมีวิธีการออมเงินอย่างไร

หนุ่มคนนี้ ชื่อ คุณประทีป อะวะรัมย์ อายุ 31 ปี เป็นหนุ่มบุรีรัมย์

อดีตเคยถูกหลอกไปลงทุนแชร์ลูกโซ่และกู้หนี้ยืมสิน ซึ่งพ่อช่วยเหลือเขาโดยการนำที่นาไปจำนอง เพื่อนำเงินไปซื้อรถ แต่งตัว และออกไปหาลูกทีม ใช้เงินกว่า 1,000,000 บาท เขาเล่าว่า พอหาลูกทีมได้ 1- 2 คน ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ ยิ่งทำยิ่งจน ไม่มีเงิน แต่มีหนี้ ถึงขนาดกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ต้องหักครึ่ง แต่ยังแต่งตัวดีออกไปหาลูกทีม เลยรู้สึกว่าถูกหลอก เคยร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแต่ไม่มีความคืบหน้า

 

การออมเงิน : ต้องการหยอดกระปุกออมสินเป็นขวัญปีใหม่ตอบแทนบุญคุณพ่อกับแม่ เงินที่นำมาหยอดนี้ได้มาจากธุรกิจขายเสื้อผ้าตามตลาดนัดและขายสินค้าออนไลน์ แบ่งเงินที่ขายของได้ร้อยละ 5 -10 ในแต่ละวัน มายอดกระปุกเป็นระยะเวลา 1 ปี

วิธีจัดการรายได้ : ตอนนี้มีรายได้จากธุรกิจ แต่ก็ต้องประหยัดด้วยการแบ่งเงินเดือน 15,000 บาทให้ตนเอง ไม่เอาเงินที่ร้านมาใช้ ขณะนี้เขาไม่มีหนี้สินแล้วและเตรียมสร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่

 

ข้อคิดที่เราได้จากเรื่องราวของคุณประทีป…

แม้ว่ามีเงินมากแค่ไหน ก็หมดตัวได้เพราะแชร์ลูกโซ่ ซึ่งปัจจุบันใช้วิธีการหลอกลวงที่เปลี่ยนไป เราควรติดตามข่าวสารตลอดเวลา ทางที่ดีอะไรที่บอกว่าได้ผลตอบแทนสูงๆ ความเสี่ยงต่ำ ลงทุนปุ๊บ 3-7 วันได้เงินกลับมาทันทีหรือว่าได้เงินง่ายๆ ก็ควรระมัดระวังไว้

แม้ว่าอาชีพค้าขายจะต้องมีเงินหมุนตลอดเวลา แต่ก็ต้องแบ่งเงินออมเก็บไว้ด้วย เผื่อไว้ใช้ในช่วงขายของไม่ดีจะได้นำเงินออมออกมาใช้ได้ โดยไม่ต้องกู้ยืมให้เสียดอกเบี้ย ทางที่ดีควรแยกบัญชีส่วนตัวและบัญชีของร้านออกจากกัน เพื่อจะได้ไม่ใช้เงินปะปนกัน

เมื่อเราทำงานมีรายได้แล้วควรแบ่งเงินทำบุญกับพระในบ้านด้วยการให้เงินพ่อแม่ด้วย แต่ควรให้อย่างมีขอบเขตเพราะบางครอบครัวพ่อหรือแม่ติดการพนัน เอาเงินที่ลูกให้ไปเสียพนันจนหมด แบบนี้ลูกอาจจะไม่ให้ก็ได้ จากประสบการณ์ที่เคยเจอเป็นแม่ของเพื่อนติดหวย ลูกให้เงินล้านกว่าบาทก็หมดเกลี้ยง สุดท้ายลูกจำเป็นต้องเลิกให้เงินช่วยเหลือพ่อแม่

 

คนที่สาม หมูปิ้งร้อยล้าน


เฮียนพ หนุ่มนครสวรรค์ ที่ล้มเหลวกับหลายๆ อาชีพจนกระทั่งได้มาเจอสูตรหมูนุ่มเจ้าเด็ดขายดี มียอดขายกว่า 800,000 ไม้ต่อสัปดาห์ ส่งขายทั่วประเทศ สร้างรายได้กว่า 200 ล้านบาทต่อปี แต่กว่าจะมีวันนี้ได้ต้องผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้าง อ่านต่อกันได้เลยจ้า

คุณชวพจน์ ชูหิรัญ หรือเฮียนพ ปัจจุบันอายุ 49 ปี มีพี่น้อง 4 คน พอเรียนจบ ม.3 ก็ไม่ได้เรียนต่อ
ประสบการณ์ในอดีต
เริ่มทำงานก่อสร้างมาตั้งแต่อายุ 15 ปี พออายุ 17 ปีเข้า กทม. มาทำงานเป็นช่างทาสี ทำเฟอร์นิเจอร์
ปี 2533 บริษัทเปิดใหม่แถวปทุมฯเปิดรับพนักงานวุฒิ ม.3 ก็เลยไปสมัครเป็นลูกจ้างรายวันๆ ละ 70 บาท ทำงานมาเกือบ 10 ปีเห็นว่าดีเพราะมีสวัสดิการดี เช่น มีรถรับส่ง มีโรงอาหาร
ปี 2540 เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งก็ถูกเลิกจ้างได้เงินก้อนมา 2 – 3 หมื่นบาท ตอนนั้นอายุ 30 ปี สมัครงานที่ไหนไม่ค่อยมีคนรับ ก็เลยหันมาขายของตามตลาดนัด ทำน้ำยาล้างจานขาย ขายไอติมกระทิสด ขายเสื้อผ้าเด็ก ขายต้นไม้มงคล ขับแท็กซี่ รปภ. แต่ก็ยังล้มเหลว สุดท้ายบ้านถูกยึดและเลี้ยงชีพด้วยการขับวินมอไซด์

เริ่มทำหมูปิ้ง
กลุ่มแม่บ้านตำรวจที่ทำหมูปิ้งขายว่าจ้างเฮียนพที่ขับวินมอไซด์ให้ไปส่งหมูปิ้งหลายๆ ที่ จนกระทั่งน้องสาวเริ่มขายหมูปิ้ง ในขณะที่เฮียนพช่วยผลิตหมูปิ้ง
จุดพลิกอยู่ที่ปี 2554 น้ำท่วมใหญ่ ผู้ผลิตหมูปิ้งคนอื่นๆ หยุดผลิตกันหมดเพราะหนีน้ำท่วม แต่เฮียนพไม่หยุดเพราะคิดว่ามันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว จากวิกฤตก็กลายเป็นโอกาส ทำให้เฮียนพได้ทั้งลูกค้าและลูกน้องของผู้ผลิตรายอื่นๆ มาในช่วงน้ำท่วม

การสะสมเงิน
เมื่อขายได้เงินมาแล้วก็จะหักค่าใช้จ่ายต่าง เช่น เนื้อหมู ค่าแรง ฯลฯ เหลือเงินเท่าไหร่ค่อยนำไปหย่อนตู้ฝากธนาคารเก็บไว้ เก็บไปเรื่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีเงินเก็บเท่าไหร่ จนกระทั่งวันหนึ่งจำเป็นจะต้องซื้อรถเพื่อขับส่งของ เพราะคันเก่ามันสภาพไม่ค่อยดี เปิดดูเงินในบัญชีก็ตกใจเพราะมีเงินเกือบ 3 ล้านบาท!!
แม้ว่ามีรายได้เยอะ แต่ก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ปัจจุบันก็ยังอยู่บ้านเอื้ออาทร

ขยายกิจการจากเงินออม
เมื่อพื้นเก่าที่ใช้ผลิตหมูปิ้งถูกนำไปสร้างศูนย์อาหาร จึงต้องย้ายคนงานร้อยกว่าคนไปเช่าโรงงานเก่าๆ เดือนละ 30,000 บาท ส่วนเงินที่สะสมไว้ตั้งใจว่าจะนำไปซื้อที่ดินเพื่อตั้งโรงงานจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าโรงงาน แต่ก็ถูกญาติพี่น้องตำหนิเพราะลงทุนเป็นล้านไม่รู้ว่าจะได้คืนตอนไหน และคิดว่าหมูปิ้งใครๆ ก็ทำได้ คนอื่นทำอยู่ริมถนนเต็มไปหมด
สาเหตุที่ตัดสินใจทำโรงงานเพราะธุรกิจมันดีขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าไม่เคยมีปัญหา ถ้าเรามีสัจจะทำตามที่ให้สัญญากับลูกค้าไว้ รักษาเวลา รักษาคุณภาพก็จะมีลูกค้ามากขึ้น

เคล็ดลับความสำเร็จ
ตั้งแต่ตกงานปี 2540 ใช้เวลา 12 ปี กว่าจะเจอสูตรหมูปิ้งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะต้องใช้ความตั้งใจ มีสติและความอดทนเป็นอย่างมากในการดิ้นรนเพื่อหนีความลำบาก
เน้นทางด้านคุณภาพในการสร้างจุดแข็งให้ตัวเองและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยทำให้โรงงานได้รับมาตรฐาน อย. เขามองว่าถ้าของมีคุณภาพ ลูกค้าก็จะไม่เกี่ยงราคา
เฮียนพมองการขายหมูปิ้งออกเป็น 2 มุม คือ
ทำเพื่อหาเช้ากินค่ำ ขายเองได้เงินวันต่อวันก็พออยู่ได้ แต่มันไม่เติบโต
ทำเป็นธุรกิจ คือ ทำให้เติบโตโดยการพยายามเพิ่มสาขาไปเรื่อยๆ หาคนมาขายแทนเราแล้วยังช่วยเหลือให้คนอื่นมีงานทำอีกด้วย

 

ข้อคิดที่เราได้จากเรื่องราวของเฮียนพหมูนุ่ม…

ชีวิตของทุกคนล้วนมีปัญหา ถ้าเรามีสติและมีความอดทนมากพอก็จะผ่านมันมาได้
เรื่องการออมเงินไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ควรปรับให้เข้ากับชีวิตของตัวเราเอง
เฮียนพทำอาชีพค้าขาย รายได้ไม่แน่นอน จึงใช้วิธีจ่ายก่อนแล้วค่อยออมเงิน
ถ้าเรามีรายได้แน่นอนแล้วอยากปรับวิธีนี้มาใช้กับตัวเองควรจะเป็น “การออมก่อนใช้จ่าย” ก็ได้นะจ๊ะ
เมื่อเราพอมีรายได้บ้างแล้ว ควรช่วยเหลือสังคมด้วย เช่น การทำให้คนอื่นมีงานทำเพื่อเขาจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้
ธุรกิจที่คนอื่นทำแล้วสำเร็จ เราทำตามแล้วอาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้ ทางที่ปลอดภัยถ้าเรายังไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จเหมือนคนอื่นๆ หรือไม่ ควรเริ่มทำจากเล็กแล้วค่อยๆ เติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ จากเงินออมของตัวเอง ถ้าทำแล้วเห็นกำไร มันเริ่มเสถียรแล้วก็อาจจะใช้วิธีการกู้ยืมเงินเข้ามาช่วย เพื่อทำให้ธุรกิจของเราเติบโตได้เร็วขึ้น

อ่านถึงตรงนี้แล้วเราจะรู้เลยว่าวิธีออมเงินที่แสนจะธรรมดา แต่ได้ผลดีเกินคาด ไม่ว่าจะเป็นการหยอดกระปุกออมสินหรือการฝากเงินเข้าธนาคารผ่านตู้รับฝากเงิน ซึ่งสิ่งที่ทั้ง 3 คนมีเหมือนกัน คือ วินัยในการออมเงินที่ทำอย่างสม่ำเสมอ อภินิหารเงินออมคิดว่า 3 บุคคลตัวอย่างนี้น่าจะทำให้หลายๆ คนมีแรงฮึดและมีกำลังใจที่จะออมเงินมากขึ้นนะจ๊ะ พร้อมแล้วรออะไร เริ่มออมเลยจ้า…

เรื่องใกล้ ไม่ไกลตัว ‘ออมเงิน’ ใครๆ ก็ทำได้!
Tagged on: