จัดการเงินเดือน

การจะมีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอไปจนถึงสิ้นเดือนนั้น จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันแรกที่เงินเดือนออก โดยการจัดสรรปันส่วนต่าง ๆ ให้ชัดเจน ส่วนแรกเอาไว้เพื่อค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าบัตรโดยสารรถไฟฟ้า ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต ฯลฯ จากนั้นก็แบ่งอีกส่วนหนึ่งสำหรับการชำระหนี้สินต่าง ๆ อีกส่วนหนึ่งเอาไว้เพื่อเป็นเงินเก็บแยกเอาไว้อีกหนึ่งบัญชี อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสำหรับความบันเทิงสันทนาการประจำเดือน เช่น เงินสำหรับซื้อของที่อยากได้ ไปกินข้าว ดูกนัง ซื้อเสื้อผ้า ฯลฯ และส่วนสุดท้ายเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายประจำวัน

จัดสรรเงินเก็บ

การจัดสรรเงินเก็บนั้นให้คุณแบ่งเงินเก็บออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือเงินเก็บทั่วไป ส่วนที่สองคือเงินเก็บเพื่อการเกษียณ และส่วนสุดท้ายคือเงินเก็บเพื่อกรณีฉุกเฉิน โดยแต่ละส่วนนั้น ไม่จำเป็นจะต้องเก็บมากมายหลายเป็นหมื่น ๆ เก็บเท่าที่คุณจะสามารถเก็บได้ในแต่ละเดือน แต่อาศัยระยะเวลานานการเก็บออม ทำให้มีเงินเพิ่มพูนขึ้นไปเรื่อย ๆ นั่นเอง โดยการแยกบัญชีในการเก็บเงินแต่ละส่วนนั้น จะช่วยเพิ่มความสะดวกและง่ายต่อการแยกแยะ ว่าเงินส่วนใหนเก็บเอาไว้เพื่ออะไร ตอนนี้เก็บได้เท่าไหร่แล้ว

ตัวอย่างของการจัดสรรเงินเก็บ เช่น คุณได้เงินเงินเดือนละ 20,000 บาท จ่ายค่าใช้จ่ายประจำพร้อมทั้งชำระหนี้ทั้งหมด 10,000 บาท เหลือเงินใช้จ่าย 10,000 บาท แบ่งเป็นเงินเก็บ 1,500 บาท (เงินเก็บทั่วไป 500 บาท, เงินเก็บเพื่อนเกษียณ 500 บาท และเงินเก็บเพื่อกรณีฉุกเฉิน 500 บาท) แบ่งเป็นเงินสำหรับสันทนาการ 2,000 บาท เหลือเงินใช้จ่าย 6,500 บาทต่อเดือน

จัดการเงินสำหรับใช้จ่ายประจำวัน

เมื่อทราบจำนวนเงินที่เอาไว้ใช้จ่ายประจำวันแล้ว ให้คุณแบ่งเงินนั้นตามจำนวนวัน หากเป็นดังตัวอย่างข้างต้นคือ 6,500 บาท จะแบ่งเป็นรายวันจำนวน 30 วันได้ประมาณ 215 บาท เอาไว้สำหรับใช้จ่ายในแต่ละวันตลอดทั้งเดือน ในแต่ละวันห้ามคุณใช้จ่ายเกินจำนวนนี้ เพื่อที่จะได้มีเงินคงเหลือเอาไว้ใช้จ่ายไปจนถึงสิ้นเดือนนั่นเอง โดยหากในแต่ละวันมีเงินเหลือจากเงินที่ใช้จ่ายประจำวันให้นำไปหยอดกระปุก สิ้นเดือนก็สามารถนำเงินจากกระปุกฝากเข้าไปไว้ในบัญชีเงินเก็บทั่วไปเพิ่มได้อีก

จะเห็นได้ว่าหัวใจสำคัญของการมีเงินให้เหลือใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนนั้นก็คือ การจัดการและวางแผนการเงินในแต่ละเดือนนั่นเอง ซึ่งนิสัยนี้เป็นนิสัยที่คนรวยส่วนใหญ่เป็นกัน ดังนั้น หากคุณอยากร่ำรวยเหมือนกับคนรวย ก็ต้องทำแบบที่คนรวยทำนะคะ รับรองว่าคุณจะเป็นคนรวยได้แน่นอนค่ะ