จดทะเบียนบริษัทบ้านนาเดิม โทร:083-622-5555
อำเภอนาเดิม มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอพุนพินและอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีและอำเภอบ้านนาสาร
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอบ้านนาสารและอำเภอเคียนซา
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอเคียนซาและอำเภอพุนพิน
จดทะเบียนบริษัท (Company Registration Service)
ขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท อาจจะไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่มีเอกสารที่ต้องจัดทำค่อนข้างมาก และปัจจุบันทางกระทรวงพาณิชย์ได้ปรับเปลี่ยนให้การจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทสามารถจดในวันเดียวกันได้ ทำให้ระยะเวลาที่ใช้สั้นลง นอกจากนี้ยังลดจำนวนผู้เริ่มก่อการจาก 7 คนลดเหลือ 3 คน แต่ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าเรื่องเอกสารที่ต้องจัดทำยังเหมือนเดิมทุกอย่าง
- ผู้ก่อการยื่นขอตรวจและจองชื่อบริษัท ด้วยแบบจองชื่อนิติบุคคล( จำหน่ายที่กรมทะเบียนการค้าราคาแผ่นละ 5 บาท) เพื่อตรวจสอบว่าชื่อที่จะใช้นั้นจะเหมือนหรืคล้ายกับชื่อที่คนอื่นได้จดทะเบียนไว้ก่อนหรือไม่ โดยยื่นแบบจองชื่อดังกล่าวแก่นายทะเบียนผู้ตรวจสอบชื่อ และปัจจุบันสามารถจองชื่อผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะทราบผลในวันถัดไปโดยจะแจ้งผลการจองชื่อผ่านทาง e-mail ของผู้จองชื่อนั้น เมื่อจองชื่อได้แล้วจะต้องขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิภายใน 30 วัน
- เมื่อได้ชื่อแล้ว บุคคลซึ่งเป็นผู้ก่อการตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป เข้าชื่อกันจัดทำคำขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและเอกสารประกอบแล้วนำไปจดทะเบียน
- เมื่อได้จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิแล้ว ผู้ก่อการต้องจัดให้หุ้นของบริษัทที่คิดจะจัดตั้งขึ้นนั้น มีผู้เข้าชื่อจองซื้อหุ้นจนครบ
- ดำเนินการประชุมจัดตั้งบริษัท โดยต้องส่งคำบอกกล่าวนัดประชุมให้ผู้จองหุ้นทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนวันประชุม
- เมื่อได้ประชุมตั้งบริษัท และที่ประชุมได้แต่งตั้งกรรมการบริษัทแล้ว ผู้เริ่มก่อการต้องมอบหมายกิจการให้กรรมการบริษัทรับไปดำเนินการต่อไป
- กรรมการบริษัทจัดการเรียกให้ผู้เริ่มก่อการและผู้ขอจองหุ้น ชำระค่าหุ้นอย่างน้อยร้อยละ 25 ของมูลค่าหุ้น
- เมื่อได้รับเงินค่าหุ้นแล้ว กรรมการต้องจัดทำคำขอจดทะเบียนตั้งบริษัทและเอกสารประกอบ นำไปจดทะเบียนเป็นบริษัทภายใน 3 เดือน หลังจากการประชุมตั้งบริษัท
อำเภอบ้านนาเดิม เป็นอำเภออยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอบ้านนาเดิมมีการพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานีและภาคใต้เพื่อรองรับความเจริญของการพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก ด้านอ่าวไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ระหว่างจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต สงขลา กรุงเทพมหานคร จังหวัดสำคัญและประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากพื้นที่อำเภอใกล้เคียงมีทรัพยากรธรรมชาติหลายชนิดสมบูรณ์เพียงพอ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่เอื้อในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจอำเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานีและภาคใต้ทั้งภายในภายนอกของภูมิภาคได้อย่างเต็มที่และมีศักยภาพ
อำเภอบ้านนาเดิมตั้งอยู่ทางตอนกลาง ค่อนไปทางทิศตะวันออกของจังหวัดมีแม่น้ำสายสำคัญคือแม่น้ำตาปี คลองยา และคลองลำพูนไหลผ่านนำความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุสำคัญต่อเศรษฐกิจและด้านการเกษตร อำเภอบ้านนาเดิม เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสามารถพัฒนาได้ดีเนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอต่างๆและจังหวัดสำคัญของภาคใต้มีความสะดวกด้านคมนาคมทั้งทางเรือ ทางอากาศ ทางรถไฟ ทางบกมีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 (ทางหลวงสายเอเซีย A–2) จากชุมพรถึงสุไหงโก-ลกต่อไปยังมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มีถนนที่ทันสมัยคือทางหลวงสายเลขที่ 44 เรียกว่าสะพานเศรษฐกิจโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Southern Sea Board) เป็นถนนเชื่อมระหว่างชายฝั่งทะเลตะวันออกอ่าวไทยกับชายฝั่งตะวันตกทะเลอันดามัน เริ่มจากจังหวัดกระบี่ผ่านอำเภออ่าวลึก อำเภอปลายพระยาเข้าเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ตำบลบางสวรรค์ อำเภอพระแสง อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอกาญจนดิษฐ์ มีจุดตัดกับถนนทางหลวงสายเลขที่ 41 (ทางหลวงสายเอเซีย A–18) ถนนเชื่อมกันติดต่อได้ ทั้งคาบสมุทรภาคใต้ จุดตัดอยู่ในตำบลท่าเรือ จุดตัดกับเส้นทางรถไฟสายใต้ที่บ้านเขาพลู ตำบลนาใต้
ประวัติอำเภอบ้านนาเดิม
อำเภอบ้านนาเดิมได้รับอารยธรรมก่อนสมัยประวัติศาสตร์จนถึงสมัยประวัติศาสตร์ มีพื้นที่อาณาเขตกว้างใหญ่อยู่ในเขตการปกครองของอาณาจักรไชยา เมืองนครศรีธรรมราช มณฑลนครศรีธรรมราช มณฑลชุมพร มณฑลสุราษฎร์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามลำดับจนถึงปี พ.ศ. 2447 กระทรวงมหาดไทยได้โอนมาขึ้นกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นจังหวัดขนาดใหญ่สุดของภาคใต้ มีความสำคัญอย่างยิ่งโดยเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ตอนบนทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง สังคม ศาสนาและศิลปวัฒนธรรม จากอดีตถึงสมัยปัจจุบันอำเภอบ้านนาเดิมมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีความสำคัญ ซึ่งนายเทพ รักบำรุง ครูชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 11 ได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของท้องถิ่นอำเภอบ้านนาเดิมและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้บันทึกเรื่องราว จัดพิมพ์เป็นหนังสือและเอกสารเผยแพร่เพื่อให้นักเรียนได้ใช้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาท้องถิ่นของเรา และได้มอบให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาเรื่องราวความเป็นมาของอำเภอบ้านนาเดิม มีรายละเอียดดังนี้
1. เริ่มต้นประวัติศาสตร์ "บ้านนา" มีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ได้รับอารยธรรมมาตั้งแต่ก่อนสมัยประวัติศาสตร์ มีมนุษย์ตั้งถิ่นฐานรอบอ่าวบ้านดอน ลุ่มแม่น้ำตาปี แม่น้ำพุมดวง แม่น้ำอิปัน คลองฉวาง คลองหา คลองลำพูน คลองยา คลองท่าสะท้อน มีหลักฐานความเจริญบริเวณบ้านน้ำรอบ บ้านท่าสะท้อน บ้านท่าเรือ บ้านควนท่าแร่ บ้านนาสาร ภูเขาถ้ำขรม เมืองเวียงสระ เคียนซา พระแสง ถึงสมัยประวัติศาสตร์บ้านนาอยู่ในเขตการปกครองของอาณาจักรไชยา และเมืองนครศรีธรรมราช มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์สยาม สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา สมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์
2. สมัยเรียกชื่อ “ท้องที่ลำพูน” ในอดีตรู้จักในนาม บ้านนา เนื่องจากประชาชนมีที่ทำนาจำนวนมากและเรียกตามท้องที่ตั้งหมู่บ้านหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เรียกว่า บ้านนา และ ลำพูน ส่วนประชาชนในท้องถิ่นเรียกว่า “บ้านนา” - ปี พ.ศ. 2354 เป็นท้องที่ชื่อ ท้องที่ลำพูน ขึ้นกับเมืองนครศรีธรรมราช เอกสารทางประวัติศาสตร์บันทึกว่า “ท้องที่ลำพูน เป็นแขวงชั้นนอกด้านใต้ต่อแดนเมืองกระบี่ ด้านตะวันตกต่อแดนเมืองพังงาและตะกั่วป่า ด้านตะวันออกต่อแดนเมืองกาญจนดิษฐ์” โดยดูแลท้องที่เวียงสระ ท้องที่ส้องห้วยมะนาว ท้องที่อิปัน ท้องที่ฉวางท่าชี ประกอบด้วย อำเภอถ้ำขรม อำเภอน้ำพุ อำเภอท่าชี โดยมี วัดโฉละ เป็นที่เลณฑุบาต (หมายเหตุ เมืองนครศรีธรรมราชก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 ได้จัดการปกครองเป็น ท้องที่ มีนายที่ดูแล อำเภอ มีนายอำเภอดูแล แขวง มีนายแขวงดูแล)
- ปรากฏหลักฐานในทำเนียบข้าราชการเมืองนครศรีธรรมราช สมัยรัชกาลที่ 2 ปี พ.ศ. 2354 เกี่ยวกับข้าราชการที่ลำพูนดังนี้ คือ “ หลวงอินทรพิชัย นายที่ลำพูน ถือศักดินา ๘๐๐ ฝ่ายซ้าย ขุนเพชรกำแพง ปลัด ถือศักดินา ๔๐๐ หมื่นเทพรักษา รอง ถือศักดินา ๒๐๐ หมื่นพรหมอักษร สมุห์บัญชี ถือศักดินา ๒๐๐ หมื่นจิตอักษร สมุห์บัญชี ถือศักดินา ๒๐๐ หมื่นสุรบุรี เป็นสารวัตร ถือศักดินา ๒๐๐ หมื่นเกล้าเป็นสารวัตร ถือศักดินา ๒๐๐ สิริ หลวง ขุน หมื่น ที่ลำพูน หลวง ๑ ขุน ๑ หมื่น ๕ รวม ๗ คน ”' - ปี พ.ศ. 2420 มีการจัดปกครองท้องที่แขวงลำพูน คือ แยกท้องที่เวียงสระและท้องที่ส้องห้วยมะนาวออกเป็น 2 อำเภอคือ อำเภอเวียงสระ และอำเภอบ้านส้อง อำเภอเวียงสระต่อมาเรียกชื่ออำเภอคลองตาล โดยมี วัดเวียง เป็นที่เลณฑุบาต ท้องที่ลำพูนได้ดูแลราชการท้องที่ดังกล่าวตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 รัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5
3. สมัยเรียกชื่อ “อำเภอลำพูน” สมัยรัชกาลที่ 5 ได้จัดการปกครองประเทศสยาม ตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องถิ่น ร.ศ.116 (พ.ศ. 2440) และข้อบังคับลักษณะการปกครองหัวเมือง ร.ศ.117 (พ.ศ. 2441) พระยาสุขุมนัยวินิต (ปั้น สุขุม) ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช ได้จัดเขตการปกครอง เมืองนครศรีธรรมราช เป็น 9 อำเภอ คือ อำเภอกลางเมือง อำเภอเบี้ยซัด (ปากพนัง) อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอกลาย อำเภอสิชล อำเภอฉวาง อำเภอทุ่งสง อำเภอเขาพังไกร และอำเภอลำพูน ในส่วนอำเภอลำพูน จัดการปกครอง ดังรายละเอียดดังนี้คือ ยุบอำเภออิปันเป็นตำบลอิปัน ยุบอำเภอพะแสงเป็นตำบลพะแสง ยุบอำเภอพนมเป็นตำบลพนม มารวมกับตำบลที่มีอยู่ของท้องที่ลำพูน คือ ตำบลกอบแกบ ตำบลทุ่งเตา ตำบลท่าเรือ ตำบลบ้านนา ตั้งเป็น อำเภอลำพูน ตั้งที่ว่าการอำเภอที่ตำบลบ้านนา ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้กับวัดบ้านนาติดกับคลองลำพูน บริเวณที่ตั้งโรงพยาบาลบ้านนาเดิม - ปี พ.ศ. 2442(ร.ศ.118) แยกตำบลและตั้งตำบลขึ้นใหม่ คือ ตำบลเวียงสระ ตำบลทุ่งหลวง ตำบลท่าเรือ ตำบลพรุพี ตำบลอู่มาต (นาสาร) ตำบลลำพูน (กอบแกบ) ตำบลทุ่งเตา ตำบลท่าเรือ ตำบลบ้านนา ย้ายที่ว่าการอำเภอลำพูน(บริเวณโรงพยาบาลบ้านนาเดิม มาสร้างใหม่บริเวณตลาดเทศบาลบ้านนาในปัจจุบัน) - ปี พ.ศ. 2442 พระยาสุขุมนัยวินิต(ปั้น สุขุม ต่อมาเลื่อนยศเป็นพระยายมราช) สมุหเทศาภิบาล มณฑลนครศรีธรรมราช ได้มาตรวจราชการที่อำเภอลำพูน พิจารณาเห็นว่าการจัดการปกครองอำเภอลำพูน ยังไม่เหมาะสมเพราะไม่สะดวกต่อการเดินทางของประชาชนจึงได้แยกตำบลอีปัน และ ตำบลพะแสง ตั้งเป็น อำเภอพะแสง แยกตำบลพนม ตั้งเป็น กิ่งอำเภอพนม ออกจากอำเภอลำพูน - ปี พ.ศ. 2449(ร.ศ.125)ย้ายศาลารัฐบาลมณฑล(ศร.)ชุมพร มาตั้งที่บ้านดอน เปลี่ยนชื่อมณฑลชุมพรเป็นชื่อ มณฑลสุราษฎร์ ตั้งศาลารัฐบาลมณฑลที่บ้านดอน เปลี่ยนชื่อเมืองไชยา เป็นเมืองสุราษฎร์ธานี และโอนอำเภอพะแสง(ต่อมาเปลี่ยนเป็นพระแสง) กิ่งอำเภอพนม และอำเภอลำพูน จากเมืองนครศรีธรรมราช มณฑลนครศรีธรรมราชมาขึ้นกับเมืองสุราษฎร์ธานี จึงทำให้อำเภอลำพูน กิ่งอำเภอพนมและอำเภอพระแสง มาอยู่ในเมืองสุราษฎร์ธานี
4. สมัยเรียกชื่อ “ อำเภอบ้านนา ” และ “อำเภอบ้านนาสาร ” - ปี พ.ศ. 2460 (ร.ศ.136) กระทรวงมหาดไทยเปลี่ยนชื่อ อำเภอลำพูน เป็น“อำเภอบ้านนา”ตามชื่อตำบลที่ตั้งที่ว่าการเนื่องจากอยู่ใกล้สถานีรถไฟบ้านนา ประชาชนส่วนใหญ่เรียกว่า “อำเภอบ้านนา” - ปี พ.ศ. 2465 (ร.ศ.141) กระทรวงมหาดไทยได้โอนตำบลบางเบา ตำบลกรูด จากอำเภอท่าโรงช้าง ตำบลเคียนซา ตำบลพ่วงพรหมครจากอำเภอพะแสงมาขึ้นกับอำเภอบ้านนา ทำให้มีตำบลเพิ่มขึ้นคือ 1. ตำบลบ้านนา 2. ตำบลท่าเรือ 3. ตำบลทุ่งเตา 4. ตำบลกอบแกบ (ลำพูน) 5. ตำบลนาสาร 6. ตำบลพรุพี 7. ตำบลท่าชี (น้ำพุ) 8. ตำบลทุ่งหลวง 9. ตำบลเวียงสระ 10. ตำบลบางเบา 11. ตำบลกรูด 12. ตำบลเคียนซา 13. ตำบลพ่วงพรหมคร 14. ตำบลตะปาน - ปี พ.ศ. 2481 สมัยรัฐบาลจอมพลป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีได้เปลี่ยน ชื่อ สยาม เป็น ราชอาณาจักรไทย และวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2481 ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอบ้านนา ไปตั้งที่ ตำบลนาสาร - ปี พ.ศ. 2482 เปลี่ยนชื่ออำเภอบ้านนา โดยนำชื่อเดิม “บ้านนา”รวมกับสถานที่ตั้งตำบล“นาสาร” เป็นอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรไทย ต่อมาทางราชการได้พิจารณาเห็นว่าอำเภอบ้านนาสาร มีท้องที่กว้างขวางมีประชากรมาก บางตำบลตั้งอยู่ห่างไกลจากที่ตั้งที่ว่าการอำเภอบ้านนาสาร ไม่สะดวกแก่การปกครองและการติดต่อราชการของประชาชนกระทรวงมหาดไทยจึงได้ปรับปรุงตั้งกิ่งอำเภอขึ้น ดังนี้
- วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2511 รวมตำบลเวียงสระ ตำบลทุ่งหลวง ตั้งเป็น กิ่งอำเภอชื่อว่า “กิ่งอำเภอเวียงสระ” ต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอเวียงสระ
- วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2513 รวมตำบลเคียนซา ตำบลพ่วงพรหมคร ตั้งเป็น กิ่งอำเภอชื่อว่า “กิ่งอำเภอเคียนซา” ต่อมาได้ยกฐานะเป็นอำเภอเคียนซา
- วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2519 รวมตำบลบ้านนา ตำบลท่าเรือ ตั้งเป็นกิ่งอำเภอชื่อว่า “กิ่งอำเภอบ้านนาเดิม” และต่อมาได้ยกฐานะเป็นอำเภอบ้านนาเดิม
5. สมัยเรียกชื่อ “ กิ่งอำเภอบ้านนาเดิม” - ปี พ.ศ. 2519 วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 มีคณะทำงานประกอบด้วย กำนันดวน เพ็ชรานันท์ กำนันจำนงค์ วงศ์สกุล นายแกล้ว คงทองและกรรมการได้ประสานงานให้มีประกาศจัดตั้ง กิ่งอำเภอบ้านนาเดิมโดยมี 2 ตำบล คือตำบลท่าเรือและตำบลบ้านนา ใช้ศาลาการเปรียญของวัดทองประธาน และสร้างอาคารใหม่เป็นที่ว่าทำการกิ่งอำเภอบริเวณวัดทองประธาน มีนายนิกร ทิพย์สุวรรณ ปลัดอำเภอเป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอบ้านนาเดิม - ปี พ.ศ. 2523 เริ่มก่อสร้างอาคารที่ว่าการกิ่งอำเภอ ตรงกันข้ามกับสถานีรถไฟบ้านนา - ปี พ.ศ. 2525 ตั้งตำบลทรัพย์ทวี แยกมาจากตำบลท่าเรือ - ปี พ.ศ. 2526 ตั้งตำบลนาใต้ แยกมาจากตำบลบ้านนา - วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 ยกฐานะกิ่งอำเภอบ้านนาเดิม เป็น อำเภอบ้านนาเดิม ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่มที่ 107 ตอนที่ 83
6. สมัยปัจจุบัน “ อำเภอบ้านนาเดิม” - เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 กระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งให้นายเจริญศักดิ์ วงศ์สุวรรณ นายอำเภอบ้านนาเดิม ย้ายไปดำรงตำแหน่งนายอำเภอไชยา ให้นายธนวรรษ รอดจิตต์ จากอำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่มาดำรงตำแหน่งนายอำเภอบ้านนาเดิม อำเภอบ้านนาเดิมแบ่งการปกครองออกเป็น 4 ตำบล 30 หมู่บ้าน จัดการปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย เทศบาลตำบลบ้านนา มีชุมชน 4 ชุมชน มีนายธงชัย ว่องทรง เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านนา องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา มีจำนวน 10 หมู่บ้าน นายทศพร ขวัญม่วง เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา นายเริงศักดิ์ เพชรานันท์ เป็นกำนันตำบลบ้านนา องค์การบริหารส่วนตำบลนาใต้ มีจำนวน 9 หมู่บ้าน นายทศพล ใจสมุทร เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาใต้ นายชาตรี ลิ้มซุ้นตี้ เป็นกำนันตำบลนาใต้ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ มีจำนวน 6 หมู่บ้าน นายสุเทพ นาคสวาท เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ นายชิงชัย ไชยยศ เป็นกำนันตำบลท่าเรือ องค์การบริหารส่วนตำบลทรัพย์ทวี มีจำนวน 5 หมู่บ้าน นายสุทธิพงศ์ รอดจิตต์ เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทรัพย์ทวี นายวันชัย รักษ์ทอง เป็นกำนันตำบลทรัพย์ทวี
อำเภอบ้านนาเดิมแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 4 ตำบล 30 หมู่บ้าน ได้แก่
1. บ้านนา (Ban Na) 10 หมู่บ้าน
2. ท่าเรือ (Tha Ruea) 6 หมู่บ้าน
3. ทรัพย์ทวี (Sap Thawi) 5 หมู่บ้าน
4. นาใต้ (Na Tai) 9 หมู่บ้าน
ท้องที่อำเภอบ้านนาเดิมประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5 แห่ง ได้แก่
เทศบาลตำบลบ้านนา ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลบ้านนาและบางส่วนของตำบลนาใต้
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านนา (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลบ้านนา)
องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าเรือทั้งตำบล
องค์การบริหารส่วนตำบลทรัพย์ทวี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทรัพย์ทวีทั้งตำบล
องค์การบริหารส่วนตำบลนาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาใต้ (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลบ้านนา)
การคมนาคม
- ทางถนน สามารถติดต่อกับหมู่บ้านอื่นได้ตลอดทั้งปีโดยทางรถยนต์ และการเดินทางสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยรถยนต์ผ่านถนนสายเอเชียหรือทางหลวงหมายเลข 41 และถนนสายเซาเทิร์นซีบอร์ด
- ทางรถไฟ มีรถไฟสายใต้บริการในท้องถิ่น และสามารถติดต่อได้ทั่วประเทศ
การท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
- ป่าพรุกงบ้านนาเดิม สวนป่าพฤกษศาสตร์โรงเรียนบ้านนาวิทยาคม แอ่งน้ำห้วยใหญ่ สระน้ำบ้านสวยศรี อยู่ในตำบลบ้านนา - บ่อน้ำพุร้อนเขาพลู ป่าพรุทุ่งกระจูด ป่าเสม็ด อยู่ในตำบลท่าเรือ - แม่น้ำตาปี และทุ่งปักขอ อยู่ในตำบลทรัพย์ทวี
แหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานและนมัสการพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง
- วัดควนท่าแร่ วัดควนพระ อยู่ในตำบลทรัพย์ทวี - วัดบ้านนา(วัดใต้) วัดชโลตมาราม(วัดน้ำฉ่า)มีเกจิอาจารย์หลวงพ่อทองสุข อยู่ในตำบลนาใต้ - วัดห้วยใหญ่ (วัดชุมพูพล) วัดทองประธาน มีเกจิอาจารย์หลวงพ่อทอง หลวงพ่อกล่อม อยู่ในตำบลบ้านนา - วัดท่าเรือ (วัดอินทการาม) มีเกจิอาจารย์ หลวงพ่อท่านเจ้าฟ้า อยู่ในตำบลบ้านท่าเรือ
แหล่งท่องเที่ยวสถานที่สำคัญอื่นๆ
- สถานีรถไฟ บ้านนา อยู่ในเขตเทศบาลตำบลบ้านนา
"จดทะเบียนบริษัทสุราษฎร์ธานี บริการรับจดทะเบียนบริษัททุกประเภท"
การลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน
การลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ ผู้เริ่มก่อการทุกคนจะต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเอง โดยเฉพาะผู้เริ่มก่อการซึ่งเป็นผู้ขอจดทะเบียน จะต้องมาลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนต่อหน้านายทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประจำตัว หรือลงลายมือชื่อต่อหน้าพนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในท้องถิ่นที่ผู้ลงลายมือชื่อมีภูมิลำเนา หรือสามัญสมาชิกหรือวิสามัญสมาชิกแห่งเนติบัณฑิตยสภาก็ได้
ซึ่งรายละเอียดดังกล่าว ทางบริษัท ชลธี บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด จะเป็นผู้ดำเนินการแทนท่าน เพียงแต่ท่านจะต้องเตรียมการข้อมูลดังต่อไปนี้ มายังทางบริษัทฯ
รับจดทะเบียนบริษัท : บริษัทจำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด, ใบทะเบียนพาณิชย์, มูลนิธิ, สมาคม, จดภาษีมูลค่าเพิ่ม, ขึ้นทะเบียนประกันสังคม ฯลฯ
จดแก้ไขเปลี่ยนแปลง : จดแจ้งย้ายที่ตั้งบริษัท จดเพิ่มสาขา จดเปลี่ยนตราสำคัญ จดเปลี่ยนชื่อ จดกรรมการ เข้า-ออก จดเพิ่มทุนจดทะเบียน จดแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ ฯลฯ
จดทะเบียนเกี่ยวกับสินค้า : จดเครื่องหมายการค้า จดสิทธิบัตร จดลิขสิทธิ์
1.คิดชื่อเพื่อทำการจองชื่อนิติบุคคล ให้คิดเผื่อไว้ 2-3 ชื่อ กันชื่อซ้ำ ทั้งภาษาไทย และ English เว้นวรรคตามต้องการ เช่น ควิกแอคเคาท์ติ้ง/Quick Accounting หรือ ชลธี การบัญชี/Chonlatee Accounting พร้อมทั้งข้อมูลบนบัตรประชาชน อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ของผู้จอง ขั้นตอนนี้ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ทราบผลการจอง (กรณีให้บริษัทฯจองให้)
2.หลังจากที่จองชื่อนิติบุคคลได้แล้ว ก็ต้องเตรียมเอกสาร และข้อมูลบริษัท เช่น วัตถุประสงค์ ทุนจดทะเบียน มูลค่าหุ้น
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้เริ่มก่อตั้ง อย่างน้อย 3 ท่าน (สำเนาต้องดูแล้วชัดเจน)
- สำเนาทะเบียนบ้าน ของสถานที่จัดตั้งบริษัท พร้อมแผนที่ตั้ง (สำนักงานใหญ่)
- แบบแจ้งผลการจองชื่อนิติบุคคล
3.ข้อมูลบริษัท (เพื่อใช้จัดเตรียมแบบจดทะเบียนบริษัท ใช้เวลา 1 ชั่วโมง กรณีให้บริษัทฯจัดทำ)
- ผู้มีอำนาจลงนาม เช่น นาย ก และ นาย ข ลงนามพร้อมประทับตราสำคัญบริษัท
- วัตถุประสงค์ บริษัท เช่น ประกอบกิจการ รับทำบัญชี วางระบบบัญชี ตรวจสอบบัญชี (ใส่ได้ไม่จำกัด)
- การกำหนดมูลค่าหุ้นของบริษัท ต้องแบ่งเป็นหุ้น หุ้นละเท่าๆกัน เช่น ทุน1 ล้าน กำหนดหุ้นละ100บาท บริษัทจะมีหุ้นทั้งหมด 10,000 หุ้น
4.นำแบบจดทะเบียนบริษัทไปจดที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งมีบริการอยู่ 8 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 1 วัน
การเลือกจดทะเบียนธุรกิจ สามรถแบ่งออกเป็นประเภทหลักๆดังนี้
1. | จดทะเบียนพาณิชย์(ร้านค้า) | มีสภาพเหมือนบุคคลธรรมดา | ก่อตั้ง 1 คน |
2. | จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนสามัญ | มีสภาพเหมือนบุคคลธรรมดา | ก่อตั้งอย่างน้อย 2 คน |
3. | จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล | มีสภาพเป็นนิติบุคคล | ก่อตั้งอย่างน้อย 2 คน |
4. | จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด | มีสภาพเป็นนิติบุคคล | ก่อตั้งอย่างน้อย 2 คน |
5. | จดทะเบียนบริษัทจำกัด | มีสภาพเป็นนิติบุคคล | ก่อตั้งอย่างน้อย 3 คน |
6. | จดทะเบียนบริษัทจำกัด(มหาชน) | มีสภาพเป็นนิติบุคคล | ก่อตั้งอย่างน้อย 15 คน |
อีกหนึ่งบริการที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับธุรกิจ องค์กร บริษัท ห้าง ร้านต่างๆ สำคัญอย่างยิ่งจัดเป็นอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ในเรื่องทางการบัญชี เพราะหากขาดขั้นตอนนี้ไปแล้ว อาจทำให้เกิดผลกระทบกับท่านและธุรกิจของท่านในทางลบ เพราะหากกรมสรรพากรเกิดคิดถึงเราขึ้นมาหละก็มีปัญหาแน่นอน… ถ้าตัวเลขทางบัญชีกับยอดการใช้จ่ายต่างๆลงตัวเท่ากันก็ดีไป แต่หากไม่ตรงขึ้นมาตามที่แจ้งไปอันนั้นอาจจะต้องตรวจสอบกันยาวหน่อย ดังนั้นเราจึงอยากให้ท่านตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวเลขทางบัญชีที่ได้แจ้งไปทางกรมสรรพากร หากท่านต้องการใช้บริการ “ตรวจสอบบัญชี” กับทางเรา ยินดีให้คำปรึกษาก่อนการตัดสินใจ
โทรเลย 083-622-5555 | LineID : cbg1
โปรโมชั่น จดทะเบียนบริษัทกับเราวันนี้
โปรโมชั่น สำหรับลูกค้าจดทะเบียนใหม่
พิเศษ !!! สำหรับลูกค้าจดทะเบียนใหม่
ส่วนลดพิเศษ!! จัดทำเว็บไซต์จาก ปกติ 12,000 บาท เหลือเพียง 5,000 บาท
ฟรี !!! ระบบอีเมล์ภายใต้ชื่อโดเมนเนม
โปรโมชั่น ลูกค้าจดทะเบียนใหม่และทำบัญชี
พิเศษ !!! ลูกค้าจดทะเบียนใหม่และทำบัญชี
เว็บไซต์ ราคาพิเศษ 3,500 สำหรับบริษัทพร้อมแนะนำการทำตลาดออนไลน์
ฟรี ออกแบบโลโก้บรษัท
ฟรี รูปแบบใบส่งสินค้า ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงินและเอกสารสำคัญอื่นๆ
ฟรี ขึ้นทะเบียน ระบบ E-FILING เพื่อใช้นำส่งงบการเงินกับกระทรวงพาณิชย์
ฟรี จดทะเบียน ภ.อ.01 เพื่อใช้ยื่นภาษีผ่าระบบออนไลน์
ฟรี จัดเตรียมเอกสารขึ้นทะเบียน E-GP (ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ)
ฟรี ที่ปรึกษาด้านการตลาดและบริหารธุรกิจ
การจดทะเบียนธุรกิจ ประเภทต่างๆ ต้องเลือกให้เหมาะสมกับกิจการที่เราจะทำ จำเป็นจะต้องพิจารณาให้ละเอียด เพื่อการเริ่มต้นที่ดี
คำถามที่พบบ่อย ?
ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด ร้านค้าจดทะเบียนบริษัทที่ไหน? จดบริษัทจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง? จดบริษัทต้องใช้ผู้ก่อตั้งกี่คน? จดบริษัทต้องมีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่? ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร บริษัทต้องเสียภาษีอะไรบ้าง? บริษัทจดคนเดียวได้ไหม? บริษัทสามารถใส่วัตถุประสงค์ได้กี่ข้อ? จะรับงานราชการต้องจดทะเบียนแบบไหน? บริษัทจะต้องขึ้นประกันสังคมหรือไม่? ต้องมีลูกจ้างกี่คนถึงจะขึ้นประกันสังคม? จะเริ่มทำบัญชียังไง? ลูกค้าให้จดเป็นนิติบุคคล จะจดแบบไหนดี? มีชาวต่างชาติถือหุ้นด้วยจะจดบริษัทได้ไหม? การตั้งชื่อบริษัทควรจะตั้งอย่างไร? ถ้าเปิดบริษัทแต่ยังไม่มีรายได้ต้องเสียค่าทำบัญชีไหม ต้องปิดงบการเงินหรือไม่? ถ้ามีชื่อในบริษัทอื่นแล้ว จะตั้งบริษัทใหม่ได้ไหม? ทำบิล ทำใบกำกับภาษี ไม่เป็น จะทำยังไง? กรรมการบริษัท คืออะไร มีหน้าที่อย่างไร? ผู้ถือหุ้น คืออะไร มีหน้าที่อย่างไร ? จะเปิดบัญชีกับธนาคาร ในนามบริษัทต้องทำอย่างไร? ที่ตั้งบริษัท ใช้บ้านที่ต่างจังหวัดได้หรือไม่?……..
โทรหาเรา เพื่อขอรับคำปรึกษา โทร : 083-622-5555