โควิด-19 ระบาด จนต้องลาออกจากงาน...ต้องทำยังไงกับประกันสังคม

สิทธิประกันสังคมควรรู้ มนุษย์เงินเดือน ลาออกจากงาน ได้เงินชดเชยเท่าไร ต้องจัดการเรื่องประกันสังคมยังไง เพื่อช่วยเหลือเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ใครยังไม่รู้...มาเช็กข้อมูลกัน

การลาออก เป็นเรื่องปกติของการทำงาน แต่เชื่อว่าคงมีหนึ่งเรื่องสำคัญที่หลายคนสงสัยว่า หากเราเป็นผู้ประกันตนของประกันสังคม (มาตรา 33) เมื่อตัดสินใจลาออกจากงานแล้ว เราจะต้องดำเนินการอะไรกับประกันสังคมหรือไม่ แล้วมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยอะไรไหม หรือสิทธิ์อื่น ๆ ที่เคยได้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล จะยังคงได้รับเหมือนเดิมหรือเปล่า

          วันนี้ ชลธีดอทคอม จึงได้สรุปคู่มือง่าย ๆ สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังจะลาออกหรือว่างงานจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ระบาด ว่าต้องจัดการยังไงบ้างกับสิทธิประกันสังคมของตัวเอง

          เมื่อลาออกจากงานแล้ว ในช่วงที่ยังไม่มีงานใหม่ทำ เราสามารถขึ้นทะเบียนและรายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงานเพื่อขอรับเงินชดเชย ได้ตามขั้นตอน ดังนี้

  1. ขึ้นทะเบียนผู้ว่างงาน

สามารถขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานผ่านอินเทอร์เน็ต ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานจัดหางาน empui.doe.go.th ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ลาออก ถ้าเกินกำหนดจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ย้อนหลังได้

แจ้งประกันสังคม เพื่อรับเงินชดเชยว่างงาน

 

  1. ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7)

จากนั้นให้ยื่นเพื่อขอรับสิทธิ์เงินทดแทนกรณีว่างงาน ที่สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) โดยแนบหลักฐาน ดังนี้

  • แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7)
  • หนังสือรับรองการออกจากงานหรือสำเนาแบบแจ้งการลาออกจากงานของผู้ประกันตน (สปส.6-09)
  • หนังสือหรือคำสั่งของนายจ้างให้ออกจากงาน (ถ้ามี)
  • หนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย กรณีผู้ประกันตนว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย
  • สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขบัญชีของผู้ประกันตน ผ่าน 11 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, กรุงศรีอยุธยา, กรุงเทพ, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย, ทหารไทย, ธนชาต, ซีไอเอ็มบี ไทย, อิสลามแห่งประเทศไทย, ออมสิน และ ธ.ก.ส.
  1. รายงานตัวทุกเดือนกับสำนักงานจัดหางาน

เราต้องรายงานตัวอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อรับเงินว่างงาน ผ่านเว็บไซต์สำนักจัดหางาน empui.doe.go.th ตามกำหนดเวลาในแต่ละเดือน แจ้งล่วงหน้าได้ 7 วัน ก่อนถึงกำหนด โดยเงินที่ได้รับแต่ละเดือนจะโอนเข้าบัญชีที่เรายื่นเรื่องไว้ ภายใน 7-10 วันทำการนับจากวันที่อนุมัติและรายงานตัว (ไม่รวมวันหยุดราชการ)

ลาออกจากงาน ประกันสังคมจ่ายเงินชดเชยเท่าไร ?
กรณีลาออกจากงานเองโดยสมัครใจ ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนว่างงาน ไม่เกินปีละ 90 วัน ในอัตรา 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย (คิดจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำ 1,650 บาท/เดือน และฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาท/เดือน) เช่น

- เงินเดือน 10,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือน
 - เงินเดือน 20,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 4,500 บาท (คิดจากฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาท) เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือน

แต่ถ้าเป็นกรณีถูกเลิกจ้าง ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทน ไม่เกินปีละ 180 วัน ในอัตรา 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย เช่น 

- เงินเดือน 10,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน
- เงินเดือน 20,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 7,500 บาท (คิดจากฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาท) เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน

ทั้งนี้ คนที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือจากประกันสังคม ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการว่างงาน และว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป ที่สำคัญคือ ต้องไม่ถูกเลิกจ้างด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้

          - ทุจริตต่อหน้าที่ หรือทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง
          - จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
          - ฝ่าฝืนข้อบังคับ ระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายในกรณีร้ายแรง
          - ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร
          - ประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
          - ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา
          - ต้องไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ

กรณีลาออก หรือถูกเลิกจ้างเพราะสถานการณ์ COVID-19 จะต้องทำอย่างไร ได้เงินชดเชยเท่าไร ?

ในช่วงที่โรคโควิด 19 แพร่ระบาดถือเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนั้น หากผู้ประกันตน มาตรา 33 เข้าข่ายกรณีต่อไปนี้ สามารถรับเงินชดเชยรายได้กรณีว่างงานได้

  1. ลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง
  2. ถูกเลิกจ้าง
  3. รัฐบาลสั่งปิดกิจการชั่วคราว
  4. สัมผัส ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อหรือเป็นกลุ่มเสี่ยงติดโรคระบาด ต้องกักตัวเอง 14 วันที่บ้านหรือที่โรงพยาบาล
  5. นายจ้างไม่สามารถประกอบกิจการได้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ
  6. นายจ้างไม่สามารถประกอบกิจการได้ เนื่องจากมีลูกจ้างสุ่มเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19

จำนวนเงินชดเชยที่จะได้รับจากกรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัย (โควิด 19) มีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป โดยบังคับใช้เป็นระยะเวลา 2 ปี   

กรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัย

  • นายจ้างไม่ให้ทำงาน หรือต้องกักตัว 14 วัน รับเงินกรณีว่างงาน 50% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 180 วัน
  • หน่วยงานภาครัฐสั่งหยุดกิจการชั่วคราว รับเงินกรณีว่างงาน 50% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 60 วัน

* หากว่างงานเพราะนายจ้างไม่ให้ทำงาน หรือถูกกักตัว 14 วัน หรือภาครัฐสั่งหยุดกิจการชั่วคราว ให้ลงทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทน ที่นี่ แต่ไม่ต้องไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงาน

แต่ในกรณีที่หยุดงานเนื่องจากหน่วยงานภาครัฐ/นายจ้างสั่งปิดกิจการชั่วคราว หรือหยุดเนื่องจากต้องกักตัวอันเกิดจากโรคระบาด จะต้องให้นายจ้าง/ผู้ประกอบการเข้ามากรอกข้อมูลยืนยันความถูกต้องว่า ได้มีการสั่งปิดกิจการ หรือเราได้หยุดกักตัวจริง ๆ โดยนายจ้างกรอกข้อมูลได้ที่ แบบฟอร์มรองรับการหยุดงานของลูกจ้าง อันเนื่องจากเหตุสุดวิสัย   

กรณีว่างงานเพราะลาออก หรือถูกเลิกจ้าง

- ว่างงานจากการลาออก รับเงินกรณีว่างงาน 45% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 90 วัน
- ว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง รับเงินกรณีว่างงาน 70% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 200 วัน

* หากว่างงานเพราะลาออกเองหรือถูกเลิกจ้าง ให้ลงทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทน ที่นี่ และต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานที่เว็บไซต์ empui.doe.go.th ภายใน 30 วัน หลังออกจากงาน

 ลาออกแล้ว สิทธิประกันสังคม จะเป็นอย่างไร

แม้จะลาออกจากงานประจำและไม่ได้ส่งเงินสมทบแล้ว ผู้ประกันตนจะยังสามารถใช้สิทธิประกันสังคมต่าง ๆ ทั้งกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และเสียชีวิต ได้เหมือนเดิมต่ออีก 6 เดือน หลังจากลาออก

ทว่าหากพ้น 6 เดือน เรายังไม่ได้เริ่มทำงานกับบริษัทใหม่ หรือได้เปลี่ยนไปทำอาชีพอิสระแล้ว ก็จะทำให้สิทธิ์การเป็นผู้ประกัน มาตรา 33 หมดลง ทำให้เราต้องตัดสินใจใน 2 ทางเลือก ดังนี้

  1. สมัครเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 

หากยังอยากอยู่ในระบบประกันสังคมต่อไป สามารถย้ายมาเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 แทนได้ แต่ต้องเคยส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน และยื่นคำขอผู้ประกันตนมาตรา 39 ภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ลาออกจากงาน

          โดยผู้ประกันตน มาตรา 39 จะต้องส่งเงินเข้ากองทุน 432 บาท/เดือน โดยรัฐบาลจะช่วยสมทบอีก 120 บาท/เดือน ได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี คือ กรณีเจ็บป่วย/อุบัติเหตุ ทุพพลภาพ เสียชีวิต คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ

อ่านเพิ่มเติม - ประกันสังคม มาตรา 39 คืออะไร สิทธิประกันสังคม มีอะไรบ้าง

  1. ออกจากประกันสังคมไปเลย

หากเราไม่ทำอะไรต่อจากนี้ สิทธิประกันสังคมกรณีเจ็บป่วยและว่างงานก็จะขาดโดยอัตโนมัติ หากเจ็บป่วยอะไรขึ้นมา ก็จะต้องใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง แทน

ส่วนเงินชราภาพที่มีอยู่ จะได้รับก็ต่อเมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งต้องทำเรื่องภายใน 1 ปี หลังเกษียณ ห้ามเกินแม้แต่วันเดียว สำหรับเงินที่ได้จะแบ่งเป็น 2 แบบ ตามระยะเวลาที่ส่งสมทบ คือ

อย่างไรก็ตาม หากเรากลับมาทำงานประจำใหม่ สิทธิประกันสังคม มาตรา 33 จะกลับมาได้อีกครั้ง โดยนายจ้างจะเป็นผู้ยื่นเรื่องดำเนินการกับประกันสังคมเอง ซึ่งเงินบำเหน็จ-บำนาญชราภาพของเดิมจะยังคงอยู่และสะสมเพิ่มต่อไปเรื่อย ๆ ส่วนสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ให้เริ่มนับหนึ่งใหม่

ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดช่องทางในการยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย ให้ยื่นแบบได้ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ หน้าเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th เท่านั้น

โดยเข้าไปที่หัวข้อขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงาน online (e-form for sso benefits) โดยผู้ประกันตนกรอกแบบขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย และนายจ้างกรอกแบบรับรองการปิดกิจการจากเหตุ COVID-19

โดยกรณีภาครัฐ มีคำสั่งให้หยุดกิจการชั่วคราว ประกันสังคมจะจ่ายให้ผู้ประกันตนกรณีว่างงาน ร้อยละ 50 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน หรือ ไม่เกิน 7,500 บาทต่อเดือน

สำหรับผู้ประกันตนที่ไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้างไม่ให้ทำงาน เนื่องจาก โควิด-19 ประกันสังคมจะจ่ายกรณีว่างงาน อัตราร้อยละ 50 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน ไม่เกิน 7,500 บาทต่อเดือน

นอกจากนี้เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำหรับผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกจากงานซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับผลกระทบจาก ไวรัสโควิด-19 สามารถขึ้นทะเบียนผู้ว่างงาน และรายงานตัวผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ที่ เว็บไซต์กรมการจัดหางาน เพียงใช้เลขบัตรประชาชนในการเข้าสู่ระบบ ทาง http://empui.doe.go.th/auth/index กรอกข้อมูลจากบัตรประชาชนพร้อมกรอกเลขหลังบัตรประชาชน (laser Code) จะได้รหัสผ่านเพื่อใช้งานระบบฯ เมื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเสร็จสิ้นแล้ว ให้ผู้ประกันตนยื่นคำขอ รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7) e-form บนเว็บไซต์ www.sso.go.th โดยยื่นเอกสารช่องทาง ดังนี้

1. ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ตอบรับ หรือ
2. ส่งทางโทรสาร (FAX) ของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา หรือ
3. ส่งทาง e-mail ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขากำหนด หรือ
4. ส่งทางไลน์ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขากำหนด

ทั้งนี้เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการรับสิทธิประโยชน์ และลดขั้นตอนรวมถึงค่าใช้จ่าย ในการเดินทาง หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th ผ่านช่องทาง e-mail (info@sso1506.com), Web board. Live chat และทาง Facebook ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน (Facebook.com/ssofanpage) หรือโทร 1506 (ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง)


ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิทธิประกันสังคมที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนควรรู้ และทำความเข้าใจให้พร้อมก่อนลาออก โดยหากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคม โทร. 1506

 

คู่มือมนุษย์เงินเดือน!
Tagged on: